รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ลงพื้นที่ติดตามการฉีดวัคซีนโควิด-19 จ.บุรีรัมย์ เพื่อเร่งสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ครอบคลุมประชากรอย่างน้อย 70 เปอร์เซ็นต์ และสร้างความมั่นใจแก่นักท่องเที่ยวก่อนเปิดเมืองฟื้นฟูเศรษฐกิจ รับนักท่องเที่ยว ขณะนี้ลงทะเบียนรับวัคซีนแล้วเกินครึ่งของประชากรเป้าหมาย
วันนี้ (13 มิ.ย.) ที่สนามช้างอินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ นายอนุทิน ชาญวีรกูลรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วยนายแพทย์เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข และคณะผู้บริหาร ลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้าการฉีดวัคซีนเพื่อควบคุมป้องกันการระบาดของโรคโควิด-19 พื้นที่ จ.บุรีรัมย์ พร้อมมอบอุปกรณ์ทางการแพทย์ อาทิ หน้ากากอนามัย N95 เจลแอลกอฮอล์ ให้แก่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดบุรีรัมย์ และส่งมอบกรมธรรม์ประกันภัยไวรัสโคโรนา 2019 จำนวน 10,196 กรมธรรม์ แก่บุคลากรทางการแพทย์ เพื่อเป็นการสร้างขวัญกำลังใจในการทำงาน ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากภาคประชาชนของจังหวัดบุรีรัมย์
นายอนุทิน กล่าวว่า รัฐบาลได้มีนโยบายให้การฉีดวัคซีนเป็นวาระแห่งชาติ เพื่อสร้างความมั่นใจและควบคุมป้องกันการแพร่ระบาดในระยะยาว จ.บุรีรัมย์ จึงจัดฉีดวัคซีนหวังสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ในประชาชนให้ได้อย่างน้อยร้อยละ 70 เพื่อเตรียมเปิดเมือง ฟื้นฟูเศรษฐกิจ กระตุ้นการท่องเที่ยว เพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่นักท่องเที่ยว รวมถึงเพื่อสอดรับโครงการ “1 ตุลาคม 2564 ทัวร์เที่ยวไทย โดยไม่กักตัว” ของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เนื่องจากจังหวัดบุรีรัมย์เป็นจังหวัดหนึ่งที่ช่วยสร้างรายได้ให้แก่ประเทศ มีสถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์และการจัดการแข่งขันกีฬาระดับโลกที่ได้มาตรฐาน เช่น กีฬามอเตอร์สปอต และการแข่งขันฟุตบอลระดับนานาชาติทำให้แต่ละปีมีนักท่องเที่ยวเข้ามาเป็นจำนวนมาก อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ประชาชนในพื้นที่ได้แสดงความจำนงลงทะเบียนรับวัคซีน จำนวนถึง 582,153 คน หรือคิดเป็นร้อยละ 52.6 โดยลงทะเบียนผ่าน 3 ช่องทาง คือ แอปพลิเคชันไลน์หมอพร้อม บุรีรัมย์ไอซี และ อสม.เคาะประตูบ้าน ดังนั้น เพื่อให้ครบ 70 เปอร์เซ็นต์ของประชากรหรือ 1,106,749 คน ต้องร่วมมือกันเชิญชวนคนรอบข้างมาฉีดวัคซีน เพื่อสร้างภูมิคุ้มกัน และปกป้องตนเอง ครอบครัวและชุมชนไปด้วยกัน
นายอนุทิน กล่าวต่อว่า สำหรับการบริหารจัดการวัคซีน จ.บุรีรัมย์ (Buriram Healthy Vaccine model) เริ่มเน้นการฉีดในอาชีพและผู้ที่มีความเสี่ยงก่อน เช่น ผู้มีโรคประจำตัว ผู้สูงอายุ บุคลากรทางการแพทย์ บุคลากรทางการศึกษา ผู้ให้บริการโรงแรม ขนส่งสาธารณะ ธนาคาร ร้านอาหาร ร้านตัดผม เป็นต้น และพิจารณาในพื้นที่เสี่ยงที่ยังคงพบการระบาด หัวเมืองหลัก-รอง และพื้นที่เศรษฐกิจท่องเที่ยวทั้งนี้ ข้อมูล ณ วันที่ 10 มิถุนายน 2564 พบว่าประชาชน ใน จ.บุรีรัมย์ ได้รับวัคซีนเข็มที่ 1 จำนวน 112,721 คน และได้รับครบ 2 เข็มแล้ว จำนวน 55,777 คน คิดเป็นร้อยละ 5 ของกลุ่มเป้าหมาย โดยผู้ที่ได้รับการฉีดวัคซีนทุกคนจะได้รับ เอกสารรับรองการฉีดวัคซีน และสติ๊กเกอร์แสดงสถานะของการได้รับวัคซีนครบ 2 เข็ม
สำหรับความพร้อมและศักยภาพของจุดบริการฉีดวัคซีน จ.บุรีรัมย์ ได้กระจายไปทุกอำเภอเพื่อให้บริการประชาชนตามเป้าหมายครอบคลุมร้อยละ 70 โดยโรงพยาบาลสนามช้างเซอร์กิต อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ แห่งนี้ เป็นจุดบริการหลักที่ได้มาตรฐาน รองรับผู้มาฉีดวัคซีนได้มากที่สุดจำนวนถึง 4,000-5,000 คน ต่อวัน เป็นการช่วยลดความแออัดในโรงพยาบาล ไม่ให้กระทบต่อผู้ป่วยทั่วไป เริ่มให้บริการตั้งแต่วันที่ 10 พฤษภาคม 2564 จากความร่วมมือของทุกภาคส่วนในพื้นที่ อาทิ ตำรวจ อบจ. อบต. โรงพยาบาล โดยเฉพาะได้รับการเอื้อเฟื้อสถานที่ และอำนวยความสะดวกทั้งระบบน้ำ ไฟ อาหาร และระบบกำจัดขยะทั่วไป ส่วนความพร้อมของจุดสังเกตอาการ 30 นาที มีเตียงรองรับถึง 20 เตียง พร้อมด้วยแพทย์ พยาบาล เจ้าหน้าที่กู้ชีพ และรถพยาบาล 3 คัน สามารถส่งต่อไปยังโรงพยาบาลได้ภายใน 12 นาที นอกจากนี้ยังมีโรงพยาบาลสนามระดับอำเภอ จำนวน 8 แห่ง รองรับได้1,000-1,500 คน ต่อวัน และโรงพยาบาลชุมชนอีก 14 แห่ง รองรับได้ถึง 600 -800 คนต่อวัน