ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร จับมือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จัดทีมลงพื้นที่ไปฉีดวัคซีนโควิด-19 ให้ประชาชนชุมชนคลองเตย โดยตั้งจุดบริการ 2 แห่ง “โรงเรียนวัดคลองเตย-ศูนย์สรรพสินค้าโลตัส สาขาพระราม 4” ตั้งเป้าเริ่มฉีดตั้งแต่บัดนี้ ถึงวันที่ 19 พ.ค. ให้ครอบคลุมกลุ่มเป้าหมายที่กำหนดจำนวน 50,000 คน คิดเป็นร้อยละ 70 ของจำนวนคนในชุมชนทั้งหมด
วันนี้ (4 พ.ค. ) พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พร้อมด้วย นางศิลปสวย ระวีแสงสูรย์ ปลัดกรุงเทพมหานคร คณะผู้บริหารกรุงเทพมหานคร สำนักอนามัย สำนักการแพทย์ ตรวจเยี่ยมการให้บริการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ซึ่งศูนย์บริการสาธารณสุข 41 คลองเตย ได้จัดบริการประชาชน และเจ้าหน้าที่สำนักงานเขตคลองเตย เพื่อควบคุมและป้องกันการแพร่ระบาดโรคโควิด-19 ในชุมชนพื้นที่เขตคลองเตย ณ โรงเรียนวัดคลองเตย และศูนย์สรรพสินค้าโลตัส สาขาพระราม 4 เขตคลองเตย
ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า สืบเนื่องจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ห่วงใยสถานการณ์การแพร่ระบาดโรคโควิด-19 ในชุมชนเขตคลองเตย ซึ่งมีประชาชนตามข้อมูลกว่า 80,000 คน จึงได้ให้กรุงเทพมหานคร ร่วมกับสถาบันป้องกันควบคุมโรคเขตเมือง (สปคม.) ลงพื้นที่ให้บริการตรวจหาเชื้อโควิด-19 เชิงรุก รวมทั้งได้จัดสรรวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ให้กรุงเทพมหานครนำไปฉีดให้แก่ประชาชนในชุมชนคลองเตย จำนวน 50,000 คน ซึ่งคิดเป็นร้อยละ 70 ของจำนวนประชาชนทั้งหมดในชุมชนคลองเตย ทั้งนี้กรุงเทพมหานครได้กำหนดจุดให้บริการฉีดวัคซีน 2 จุด ได้แก่ บริเวณวัดคลองเตย และศูนย์สรรพสินค้าโลตัส สาขาพระราม 4 สำหรับวันนี้ (4 พ.ค. 64) ซึ่งเป็นวันแรกของการให้บริการฉีดวัคซีน คาดว่า จะมีผู้เข้ารับวัคซีนประมาณ 1,000 คน เนื่องจากเริ่มดำเนินการในช่วงบ่าย จากนั้นตั้งเป้าฉีดให้ได้วันละ 2,500-3,000 คน เพื่อให้ครอบคลุมกลุ่มเป้าหมายที่กำหนดจำนวน 50,000 คน (คิดเป็นร้อยละ 70 ของจำนวนคนในชุมชนทั้งหมด)
นอกจากนี้ กรุงเทพมหานครจะเร่งค้นหาผู้ติดเชื้อเชิงรุกในพื้นที่ให้ได้วันละ 1,000 คน โดยดำเนินการต่อเนื่องจนถึงวันที่ 19 พ.ค. นี้
พล.ต.อ.อัศวิน กล่าวด้วยว่า กรุงเทพมหานครมีเป้าหมายจะให้บริการฉีดวัคซีนประชาชนทุกคนในชุมชนคลองเตย ที่พร้อมและสมัครใจรับการฉีดวัคซีน ทั้งนี้ ขอให้ประชาชนทราบว่า การรับการฉีดวัคซีนนั้น นอกจากจะเป็นผลดีต่อตนเองที่จะสามารถสร้างภูมิคุ้มกันป้องกันโรคโควิด-19 แล้ว ยังเป็นผลดีต่อครอบครัวของท่านที่จะสามารถลดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อโควิด-19 รวมทั้งยังเป็นผลดีต่อสังคมส่วนรวมเนื่องจากเป็นส่วนหนึ่งของการสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ของสังคมด้วย
“อย่างไรก็ดี ผู้ที่ได้รับการฉีดวัคซีนแล้ว ยังคงต้องปฏิบัติตามมาตรการป้องกันส่วนบุคคลอย่างเคร่งครัด ได้แก่ เว้นระยะห่าง สวมหน้ากากอนามัยทุกครั้งที่ออกนอกบ้าน หรืออยู่ในพื้นที่สาธารณะ ล้างมือบ่อยๆ ด้วยน้ำและสบู่ หรือเจลแอลกอฮอล์ล้างมือ ทั้งนี้เพื่อร่วมกันป้องกันการแพร่ระบาดโรคโควิด-19 อันเป็นการสร้างความปลอดภัยให้ตนเองและประชาชนทั่วไปด้วย” ผู้ว่าฯ อัศวิน กล่าวในต้อนท้าย