กระทรวงสาธารณสุข เพิ่มช่องทางไลน์ @sabaideebot ช่วยผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่รอเตียง รองรับผู้ติดเชื้อในเขต กทม.และปริมณฑล ที่เพิ่มขึ้นวันละหลายร้อยคน ทำให้สายด่วน 1668 รับสายล่าช้า แนะผู้ติดเชื้อเตรียมเอกสารยืนยันผลการตรวจหาเชื้อ เพื่อความรวดเร็วในการเข้ารับรักษาในโรงพยาบาล
วันนี้ (22 เม.ย.) ที่ศูนย์แถลงข่าวสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 กระทรวงสาธารณสุข จ.นนทบุรี นายแพทย์สกานต์ บุนนาค ผู้อำนวยการสถาบันเวชศาสตร์สมเด็จพระสังฆราชญาณสังวรเพื่อผู้สูงอายุ กรมการแพทย์ แถลงข่าวว่า ขอขอบพระคุณท่านนายกรัฐมนตรีที่ห่วงใยปัญหาสายด่วน 1668 ขัดข้องให้บริการประชาชนไม่ทันกับจำนวนที่โทร.เข้ามา และขอโทษประชาชนที่ไม่ได้รับความสะดวก ต้องรอสายนาน ทั้งนี้ สายด่วน 1668 เปิดขึ้นเฉพาะกิจรวบรวมบุคลากรทางการแพทย์มาช่วยรับสาย คัดกรองให้คำแนะนำแก่ผู้ติดเชื้อ รวมทั้งหาเตียงที่เหมาะสมให้ผู้ติดเชื้อในเขต กทม.และปริมณฑล
โดยได้เริ่มเปิดดำเนินการเมื่อวันที่ 10 เมษายน 2564 พบว่า ประชาชนที่ติดเชื้อให้ความสนใจโทร.มาขอรับคำปรึกษาและให้ช่วยหาเตียงแล้วกว่า 3,400 ครั้ง ในจำนวนนี้เป็นผู้ติดเชื้อที่ขอเตียง 1,733 ราย โดยผู้ป่วยกลุ่มสีแดงและสีเขียวมีโรงพยาบาลรับเข้ารักษาเกือบทั้งหมดแล้ว ยังเหลือรอเตียง 442 ราย ที่ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มสีเหลือง และมีบางส่วนที่ไม่มีเอกสารยืนยันทางห้องปฏิบัติการ ทำให้ถึงแม้ว่ามีโรงพยาบาลรับชื่อไปแล้ว แต่ยังไม่สามารถนอนโรงพยาบาลได้ เพราะหากตรวจมาจากวิธีที่ไม่มาตรฐานอาจเป็นผลบวกลวง คือ ไม่ได้ติดเชื้อจริง เมื่อเข้าไปนอนรวมกับผู้ติดเชื้อจะอันตราย ดังนั้น ทำให้เกิดความล่าช้าในการหาเอกสารยืนยัน ขอให้ผู้ติดเชื้อเตรียมเอกสารยืนยันผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการให้พร้อม เพื่อความสะดวกรวดเร็วในการเข้ารับบริการ
นายแพทย์สกานต์ กล่าวต่อว่า สำหรับผู้ติดเชื้อจะมีการคัดกรองแบ่งอาการออกเป็น 3 กลุ่ม คือ กลุ่มสีเขียว ไม่มีอาการ หรือมีอาการเล็กน้อย เช่น ไข้ ไอ น้ำมูก ตาแดง ผื่นขึ้น จะส่งเข้ารับการรักษาใน รพ.สนาม หรือ Hospitel กลุ่มสีเหลือง คือ มีอาการไม่รุนแรง แต่มีเหนื่อยหอบ หายใจเร็ว และในกลุ่มสีแดง มีอาการหอบ เหนื่อย หายใจลำบาก ปอดอักเสบรุนแรง มีภาวะปอดบวม 2 กลุ่มนี้รับไว้รักษาในโรงพยาบาลทั้งหมด
อย่างไรก็ตาม จากการทำงาน 12 วันของสายด่วน 1668 ได้พบข้อขัดข้องและดำเนินการแก้ไขมาโดยตลอด ทั้งการเพิ่มคู่สายเป็น 20 คู่สาย ระดมแพทย์ พยาบาล เจ้าหน้าที่ที่สามารถให้คำปรึกษา คัดกรองผู้ติดเชื้อเบื้องต้นได้จาก รพ.ในสังกัดกรมการแพทย์ทั่วประเทศ รวมถึงเพิ่มช่องทางไลน์ @sabaideebot เมื่อลงทะเบียนจะมีทีมติดตามให้ความช่วยเหลือตามข้อมูลที่ให้ไว้ โดยความร่วมมือจากทั้ง 3 สายด่วน 1668, 1669 และ 1330