กรุงเทพมหานคร จัดชุดตรวจบูรณาการร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่เพิ่มความเข้มงวดตรวจสอบการเปิดให้บริการร้านอาหารตามเวลาที่กำหนด ทั้งกำชับให้ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
วันนี้ (6 เม.ย.) นางศิลปสวย ระวีแสงสูรย์ ปลัดกรุงเทพมหานคร กล่าวถึงกรณีพบการแพร่ระบาดของโควิด-19 เป็นกลุ่มก้อน (คลัสเตอร์) ที่มีความเชื่อมโยงกับสถานบันเทิงในกรุงเทพฯ ปทุมธานี และนครปฐม โดยมีปัจจัยเสี่ยง คือ การคลุกคลีใกล้ชิด ไม่สวมหน้ากากอนามัย รับประทานอาหาร หรือดื่มเครื่องดื่มร่วมกันว่า กรุงเทพมหานคร โดยสำนักเทศกิจได้จัดชุดตรวจบูรณาการร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่เพิ่มความเข้มงวดตรวจสอบการเปิดให้บริการร้านอาหารตามเวลาที่กำหนด รวมทั้งกำชับให้ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ตามพระราชบัญญัติโรคติดต่อและข้อกำหนดที่ออกตามมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 ในร้านอาหารและสถานประกอบกิจการอื่น เช่น สถานบันเทิง ผับ บาร์ เพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่ผู้บริโภคและผู้ใช้บริการ ขณะเดียวกัน ได้แนะนำมาตรการป้องกันโรคให้ผู้ประกอบการและผู้ใช้บริการถือปฏิบัติ เช่น การดำรงชีวิตให้สอดคล้องกับวิถีชีวิตปกติในรูปแบบใหม่ (New Normal) และปฏิบัติตามมาตรการป้องกันสุขอนามัยส่วนบุคคล (D-M-H-T-T) ได้แก่ การเว้นระยะห่างทางสังคม (Distancing) การสวมหน้ากากผ้า หรือหน้ากากอนามัย (Mask wearing) จัดให้มีเจล หรือแอลกอฮอล์ล้างมือประจำร้าน (Hand washing) ตลอดจนเพิ่มรอบทำความสะอาดร้าน โต๊ะ เก้าอี้ เครื่องใช้ต่างๆ รวมถึงจัดให้มีเครื่องมือตรวจวัดอุณหภูมิบริเวณทางเข้าออก โดยระหว่างวันที่ 1 ม.ค.- 1 เม.ย. 64 ได้ตรวจสถานประกอบการร้านอาหาร สถานบันเทิง ผับ บาร์ ที่ได้รับการผ่อนปรนให้เปิดกิจการไปแล้วทั้งหมด 14,166 แห่ง
นอกจากนั้น ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ชุดตรวจบูรณาการดังกล่าวจะเพิ่มความเข้มข้นตรวจสอบจุดบริการประชาชนที่เดินทางกลับภูมิลำเนาให้ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคโควิด-19 ที่กระทรวงสาธารณสุข และ กทม. กำหนดอย่างเคร่งครัด