รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข และผู้บริหาร รับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 เข็มที่ 2 พร้อมรับเอกสารรับรองการได้รับวัคซีนป้องกันโรคโควิด 19 ของประเทศไทย ทั้งแบบดิจิทัลจากไลน์หมอพร้อม และใบรับรองของโรงพยาบาล เชิญชวนประชาชน บุคลากรทางการแพทย์ ในพื้นที่เป้าหมาย รับการฉีดวัคซีนให้ครบทั้ง 2 เข็มตามนัด เพื่อลดความรุนแรงของโรค ลดการเสียชีวิต
บ่ายวันนี้ (23 มีนาคม 2564) ที่สถาบันบำราศนราดูร จ.นนทบุรี นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วย ดร.สาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข นายแพทย์เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข และคณะผู้บริหาร รับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิดเข็มที่ 2 โดยนายอนุทินให้สัมภาษณ์ว่า ในวันนี้ มารับวัคซีนเข็มที่ 2 ของบริษัท ซิโนแวค ตามกำหนดที่ต้องฉีดห่างกัน 3-4 สัปดาห์ หลังจากได้ฉีดเข็มแรกไปเมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ หลังฉีดก็ไปทำงานได้ตามปกติ และต้องฉีดให้ครบทั้ง 2 เข็ม โดยเข็มแรกเป็นการสร้างภูมิต้านทานให้เกิดขึ้นในร่างกาย และเข็มที่ 2 จะกระตุ้นภูมิต้านทานให้อยู่ในระดับที่สามารถป้องกันโรคได้อย่างต่อเนื่อง ลดความรุนแรงของโรค ลดการเจ็บป่วยที่ต้องนอนในโรงพยาบาล ลดการเสียชีวิต ขอย้ำว่า แม้จะได้รับการฉีดวัคซีนครบ 2 เข็มแล้ว ยังมีโอกาสติดเชื้อได้หากมีพฤติกรรมเสี่ยง จึงต้องเข้มมาตรการป้องกันตนเอง สวมหน้ากากผ้า/หน้ากากอนามัย ล้างมือ เว้นระยะห่างต่อไป
นายอนุทิน กล่าวต่อว่า ประเทศไทย ถือได้ว่าเป็นประเทศต้นๆ ของโลก ที่สามารถออกใบรับรองการรับวัคซีนในรูปแบบดิจิทัล โดยหลังจากฉีดวัคซีนครบตามเกณฑ์ข้อกำหนดของบริษัทผู้ผลิต เช่น วัคซีนของแอสตร้าเซนเนก้า จำนวน 2 เข็ม ห่างกัน 2-3 เดือน, วัคซีนของบริษัท ซิโนแวค จำนวน 2 เข็ม ห่างกัน 3-4 สัปดาห์ กระทรวงสาธารณสุขจะออกใบรับรองการได้รับวัคซีนป้องกันโรคโควิด 19 แบบดิจิทัล (Smart Vaccine Certificate) ในรูปแบบคิวอาร์โค้ด ที่สร้างเฉพาะแต่ละบุคคล ไม่มีซ้ำกัน (Universally unique identifier : UUID) โดยส่งไปที่ไลน์หมอพร้อม หรือพิมพ์เป็นเอกสารรับรองการได้รับวัคซีนป้องกันโรคโควิด 19 ของประเทศไทย (THAILAND NATIONAL CERTIFICATE OF COVID-19 VACCINATION) จากโรงพยาบาลที่รับการฉีดได้ทันที ซึ่งจะมีคิวอาร์โค้ดเดียวกันกับระบบดิจิทัล ยืนยันความครบถ้วนของการได้รับวัคซีนประจำตัวบุคคล พร้อมรายละเอียด รวมถึงข้อมูลการได้รับวัคซีน ได้แก่ วันที่ได้รับวัคซีน ชื่อการค้าวัคซีน ชื่อบริษัทผู้ผลิตวัคซีน รุ่นการผลิต และหน่วยบริการที่ฉีดวัคซีน โดยข้อมูลจะถูกเก็บไว้ในระบบ MOPH Immunization Center กระทรวงสาธารณสุข
นอกจากนี้ หน่วยงานอื่นๆ หรือต่างประเทศสามารถตรวจสอบข้อมูลคิวอาร์โค้ดว่า ข้อมูลการฉีดวัคซีนตรงกับบุคคลดังกล่าวหรือไม่ ปัจจุบันสามารถใช้แสดงเพื่อเดินทางในประเทศ รวมทั้งผู้เดินทางไปต่างประเทศ สามารถนำไปขอเอกสารรับรองการได้รับวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 สำหรับเดินทางไปต่างประเทศ (เล่มเหลือง) ได้ และสามารถใช้ระบบดิจิทัลแสดงข้อมูลสำหรับการเดินทางระหว่างประเทศในระยะต่อไป
“ขอเชิญชวนประชาชน บุคลากรทางการแพทย์ เจ้าหน้าที่ด่านหน้า อสม. ในพื้นที่เสี่ยงที่ได้รับการจัดสรรวัคซีน มารับการฉีดวัคซีนตามกำหนดให้ครบทั้ง 2 เข็มตามที่เจ้าหน้าที่ได้นัดหมาย โดยเฉพาะผู้ที่มีภาวะเสี่ยงสูงหรือมีโอกาสสัมผัสเชื้อ ขอยืนยันว่า วัคซีนป้องกันโรคโควิด 19 ที่กระทรวงสาธารณสุข ได้จัดหามาให้บริการประชาชน เป็นวัคซีนที่มีคุณภาพ ปลอดภัย มีประสิทธิภาพ และได้ผ่านการขึ้นทะเบียนจาก อย. แล้ว สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร.1422” นายอนุทิน กล่าว