กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ขอเน้นย้ำผู้ปกครองและสถานศึกษาเคร่งครัดในมาตรการคัดกรองและสังเกตอาการเด็กก่อนเข้าเรียน เพื่อป้องกันโรคมือ เท้า ปาก และโรคโควิด-19 หากพบเด็กป่วยให้รีบแยกออกจากเด็กปกติและแจ้งให้ผู้ปกครองรับกลับบ้าน เพื่อพาไปพบแพทย์โดยเร็ว
วันนี้ (15 ก.พ.) นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า ในช่วงนี้นอกจากโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ที่ต้องระวังเป็นพิเศษแล้ว ยังมีโรคมือ เท้า ปาก ที่ต้องระวังเช่นกัน เนื่องจากเป็นโรคที่พบได้บ่อยในเด็กทารกและเด็กเล็ก โดยเฉพาะกลุ่มเด็กอนุบาล ซึ่งขณะนี้สถานศึกษาอยู่ในระหว่างเปิดการเรียนการสอนตามปกติ อาจมีการทำกิจกรรมร่วมกันและมีโอกาสใกล้ชิดกัน ทำให้เสี่ยงต่อการแพร่กระจายเชื้อโรคได้ง่าย โดยสถานการณ์ของโรคมือ เท้า ปาก ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม - 8 กุมภาพันธ์ 2564 พบผู้ป่วย 3,107 ราย ไม่มีผู้เสียชีวิต ช่วงอายุที่พบมากที่สุดคือเด็กแรกเกิด-4 ปี (ร้อยละ 88.77) รองลงมาคืออายุ 5 ปี (ร้อยละ 4.31) และอายุ 7-9 ปี (ร้อยละ 3.12) ตามลำดับ ส่วนจังหวัดที่มีอัตราป่วยสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ พะเยา เชียงราย แพร่ สุราษฎร์ธานี และ น่าน ตามลำดับ
โรคมือ เท้า ปาก เป็นโรคที่เกิดจากการติดเชื้อไวรัสชนิดหนึ่ง ซึ่งเชื้อไวรัสจะติดมากับมือหรือของเล่นที่เปื้อนน้ำมูก น้ำลาย น้ำจากแผลตุ่มพอง หรืออุจจาระของผู้ป่วย หรือติดต่อจากการไอ จาม รดกัน หลังได้รับเชื้อจะมีอาการไข้ต่ำๆ ปวดศีรษะ อ่อนเพลีย ต่อมา 1-2 วัน มีอาการเจ็บปาก ร่วมกับมีตุ่มพองเล็กๆ บริเวณฝ่ามือฝ่าเท้า ตุ่มแผลในปาก เพดานอ่อน กระพุ้งแก้ม ลิ้น และจะแตกออกเป็นแผลหลุมตื้นๆ หากอาการไม่ดีขึ้น เช่น มีไข้ขึ้นสูง ซึมลง เดินเซ ชักเกร็ง หายใจหอบเหนื่อย อาเจียนมาก ต้องรีบไปพบแพทย์ทันทีเพราะอาจติดเชื้อโรคมือ เท้า ปากชนิดรุนแรง อาจถึงขั้นเสียชีวิตได้
นายแพทย์โอภาส กล่าวเน้นย้ำผู้ปกครองสังเกตอาการของเด็กก่อนมาสถานศึกษา ส่วนสถานศึกษาขอให้เคร่งครัดมาตรการคัดกรองและสังเกตอาการเด็กร่วมกับมาตรการป้องกันโรคโควิด-19 ก่อนเข้าเรียนทุกเช้า และขอแนะนำวิธีป้องกันโรคมือ เท้า ปาก โดยให้เด็กสวมหน้ากากผ้าหรือหน้ากากอนามัย 100% หมั่นทำความสะอาดพื้นที่ที่เด็กใช้ร่วมกัน ของใช้ ของเล่นเด็กเป็นประจำเพื่อลดเชื้อโรคที่อยู่ในสิ่งแวดล้อม หมั่นให้เด็กล้างมือบ่อยๆ ด้วยน้ำและสบู่ หรือแอลกอฮอล์เจล ทั้งก่อนและหลังรับประทานอาหารหรือเข้าห้องน้ำและหลังเล่นของเล่น เพื่อลดเชื้อสะสมบนมือและลดการแพร่เชื้อสู่ผู้อื่น และจัดให้มีพื้นที่ในการเข้าแถวทำกิจกรรม หรือเล่นเป็นกลุ่มย่อย โดยมีการเว้นระยะห่างระหว่างกันอย่างน้อย 1-2 เมตร ซึ่งจะสามารถป้องกันทั้งโรคมือ เท้า ปาก และโรคโควิด-19 ได้
ทั้งนี้ หากพบเด็กป่วย ขอให้รีบแยกออกจากเด็กปกติและแจ้งให้ผู้ปกครองรับกลับบ้าน เพื่อพาไปพบแพทย์โดยเร็ว และให้หยุดเรียนจนกว่าจะหาย แยกของใช้ส่วนตัวของเด็กป่วยออกจากเด็กปกติ หลีกเลี่ยงการคลุกคลีกับเด็กคนอื่นๆ งดไปในที่ชุมชนหรือสถานที่แออัด สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร. 1422