กรมอนามัย ขอให้ประชาชนประเมินตนเองว่าอยู่ในกลุ่มเสี่ยงต่อการแพร่เชื้อโควิด-19 หรือไม่ หากพบว่าตนเองเคยสัมผัสใกล้ชิดผู้ป่วย และมีอาการหรือพฤติกรรมเสี่ยง ขอให้งดกิจกรรมพบปะสังสรรค์กันในหมู่เพื่อน ญาติพี่น้อง หรือในครอบครัว แต่ถ้ามีความจำเป็นขอให้ปฏิบัติตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด
เมื่อวันที่ 21 ม.ค. นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ระลอกใหม่ยังคงต้องเฝ้าระวังอย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกัน ประชาชนหลายคนที่ยังมีการรวมตัว พบปะสังสรรค์ เพื่อนสนิท หรือคนในครอบครัวในงานต่างๆ นับเป็นความเสี่ยงต่อการติดเชื้อหรือแพร่เชื้อของโรคได้ เนื่องจากสถานการณ์ในปัจจุบัน พบการติดเชื้อกันเองภายในครอบครัว และกลุ่มเพื่อนมากขึ้น ดังนั้น แนวทางการป้องกัน คือ ผู้ที่จะเข้าร่วมงานหรือกิจกรรมต่างๆ ให้เริ่มจากการประเมินความเสี่ยงของการจัดกิจกรรม ด้วยการพิจารณาสถานที่ตั้งในการจัดงานว่าพื้นที่นั้นไม่พบผู้ป่วยโควิด-19 ภายใน 14 วันที่ผ่านมา แต่หากจำเป็นต้องพบปะสังสรรค์ หรือจัดกิจกรรมให้พิจารณาลดจำนวนคน และให้ความร่วมมือในการปฏิบัติตนตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุข ดังนี้ 1) การเลือกกินอาหารปรุงสุก ใช้ช้อนกลางส่วนตัวเพื่อลดการผัสร่วมกัน 2) เว้นระยะห่างระหว่างบุคคล 3) สวมหน้ากากผ้าหรือหน้ากากอนามัย ลดการตะโกนเสียงดัง 4) หมั่นล้างมือด้วยสบู่ และน้ำ หรือเจลแอลกอฮออล์บ่อยๆ ก่อนและหลังการสัมผัสสิ่งของที่ใช้ร่วมกัน 5) เมื่อกลับถึงบ้านควรเปลี่ยนเสื้อผ้าและอาบน้ำทันที
“ทั้งนี้ ประชาชนต้องยังคงมั่นสังเกตและประเมินอาการตนเองอย่างสม่ำเสมอ หากมีประวัติการเดินทางกลับจากพื้นที่เสี่ยงในช่วง 14 วันที่ผ่านมา หรือมีอาการไข้ วัดอุณหภูมิได้ตั้งแต่ 37.5 องศาเซลเซียสขึ้นไป ร่วมกับมีอาการไอ มีน้ำมูก เจ็บคอ จมูกไม่ได้กลิ่น ลิ้นไม่รับรส หายใจเร็ว หายใจเหนื่อย หายใจลำบาก มีอาการท้องเสียร่วมด้วยให้พบแพทย์ทันที นอกจากนี้ ขอให้ประชาชนโหลดแอปพลิเคชัน “หมอชนะ-ไทยชนะ” หรือจดบันทึกประวัติการเดินทางของตนเองในแต่ละวัน เพื่อช่วยให้การสอบสวนโรคทำได้ง่ายขึ้น” อธิบดีกรมอนามัยกล่าว