xs
xsm
sm
md
lg

‘จุฬาฯ-ใบยา’ เร่งผลิตวัคซีนทดสอบในมนุษย์ทันกลางปี ชวนคน ไทยร่วมเป็น #ทีมไทยแลนด์ เปิดรับบริจาคต่อเนื่องถึงสิ้นปี 64

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



(เมื่อวันอังคารที่ 19 มกราคม2564) ณ สมาคมนิสิตเก่าจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในพระบรมราชูปถัมภ์รศ.ดร.ณัฐชาทวีแสงสกุลไทยรองอธิการบดีด้านการวางและกำหนดยุทธศาสตร์นวัตกรรมและพันธกิจสากล จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในฐานะประธานมูลนิธิซียูเอ็นเทอร์ไพรส์เป็นประธานมอบเงินบริจาคในโครงการวัคซีนเพื่อคนไทย ครั้งที่ 1 จำนวน 25 ล้านบาทสนับสนุนการค้นคว้าวิจัย พัฒนา และผลิตวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19ให้แก่บริษัท ใบยา ไฟโตฟาร์ม จำกัด สตาร์ทอัพที่ก่อตั้งโดยนักวิจัยจากคณะเภสัชศาสตร์ จุฬาฯเร่งทดสอบวัคซีนในมนุษย์ให้ทันกลางปี2564


ความคืบหน้า‘วัคซีนเพื่อคนไทย’ช่วงหนึ่งเดือนแรกหลังเปิดตัวโครงการ ตั้งแต่วันที่ 14 ธันวาคม 2563และเริ่มเปิดรับบริจาคตั้งแต่วันที่ 18 ธันวาคม 2563 เป็นต้นมาได้รับการตอบรับที่ดีล่าสุด รศ.ดร.ณัฐชา ทวีแสงสกุลไทยประธานมูลนิธิซียูเอ็นเทอร์ไพรส์เปิดเผยว่า“ขอขอบคุณคนไทยที่ได้ร่วมกันเป็นส่วนหนึ่งของ #ทีมไทยแลนด์ โดยในวันนี้ที่ประชุมคณะกรรมการมูลนิธิซียูเอ็นเทอร์ไพรส์มีมติรับทราบผลการดำเนินโครงการวัคซีนเพื่อคนไทยในช่วงเดือนแรกโดยโครงการได้รับเสียงตอบรับและการสนับสนุนที่ดีจากหลายภาคส่วน ทั้งการสนับสนุนจากภาครัฐนายอนุทิน ชาญวีรกูลรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ประกาศจัดสรรงบประมาณในนามรัฐบาลไทยผ่านสถาบันวัคซีนแห่งชาติกว่า 150 ล้านบาทในพิธีเปิดโครงการ เราได้รับการสนับสนุนจากภาคประชาชนบริจาคเข้ามาแล้วรวม76,194 ราย คิดเป็นยอดเงินบริจาคกว่า39 ล้านบาท และมีภาคเอกชนน้อยใหญ่ติดต่อขอบริจาคร่วมเป็นส่วนหนึ่งของทีมไทยแลนด์กันเข้ามาอย่างต่อเนื่องซึ่งในขณะนี้อยู่ระหว่างการพูดคุยกันในรายละเอียดของความร่วมมือระหว่างกันที่จะได้เปิดเผยต่อไปและในวันนี้คณะกรรมการมูลนิธิฯ ได้มีมติมอบเงินบริจาค ครั้งที่ 1 ให้กับบริษัท ใบยา ไฟโตฟาร์ม จำกัด จำนวน 25 ล้านบาทเพื่อให้นำไปใช้ดำเนินโครงการตามแผนงานที่ได้เสนอมา โดยเรายังเปิดรับบริจาคอย่างต่อเนื่องถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2564 หรือจนกว่าจะครบตามเป้าหมาย 500 ล้านบาทต่อไป”


- มียอดเงินบริจาคผ่านช่องทางออนไลน์  ณ  วันที่ 17 ม.ค. 2564 รวมทั้งสิ้นกว่า39 ล้านบาท
- รัฐบาลจัดสรรงบประมาณสนับสนุนผ่านสถาบันวัคซีนแห่งชาติกว่า 150 ล้านบาท
- มูลนิธิซียูเอ็นเทอร์ไพรส์ยังคงเปิดรับบริจาคจนถึง31 ธันวาคม2564 เพื่อให้ถึงเป้าหมายโครงการ500 ล้านบาทต่อไป

‘จุฬาฯ-ใบยา’เร่งผลิตวัคซีนต่อเนื่องลุ้นทดสอบในมนุษย์ได้เร็วกว่ากำหนด

ทางด้าน ผศ.ภญ.ดร.สุธีรา เตชคุณวุฒิ  ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้ร่วมก่อตั้งบริษัทใบยาไฟโตฟาร์ม จำกัดกล่าวว่า ‘ขอขอบคุณมูลนิธิซียูเอ็นเทอร์ไพรส์และคนไทยที่ได้มีส่วนสนับสนุน‘โครงการวัคซีนเพื่อคนไทย’ผ่านการบริจาคเข้ามาทุกช่องทาง  ซึ่งเราตระหนักดีว่าขณะนี้คนไทยมีความหวังและกำลังรอคอยวัคซีนโควิด-19เราจึงกำลังพยายามกระชับกระบวนการทุกขั้นตอนให้สามารถทดสอบในมนุษย์ได้ทันภายในกลางปีนี้  โดยเรายังคงมุ่งมั่นตั้งใจเดินหน้าทำเพื่อคนไทยต่อไป”


การพัฒนาวัคซีนป้องกันโควิด-19 ของบริษัท ใบยา ไฟโตฟาร์ม จำกัด แบ่งการดำเนินงานต่อจากนี้ออกเป็น5 ระยะ โดยมีรายละเอียดและขั้นตอนโดยสังเขปดังนี้ ระยะที่ 1(มกราคม– กุมภาพันธ์2564) ปรับปรุงสถานที่ผลิตและเตรียมการด้านClinical Trial ระยะที่2 (มีนาคม – เมษายน2564) ปรับปรุงสถานที่ผลิตระยะที่2เตรียมการด้านClinical Trial ทดสอบความเป็นพิษทำโปรตีนให้บริสุทธิ์และเตรียมการแบ่งบรรจุ ระยะที่3 (พฤษภาคม2564) ปรับปรุงสถานที่ผลิตระยะสุดท้าย ติดตั้งเครื่องจักร เตรียมการด้านClinical Trial ทำโปรตีนให้บริสุทธิ์และแบ่งบรรจุ (ต่อ) ระยะที่4 (มิถุนายน– สิงหาคม2564) ทดสอบในมนุษย์ Clinical Trial Phase 1-2 และระยะที่5 (สิงหาคม- ตุลาคม2564) ทดสอบในมนุษย์Clinical Trial Phase 3 โดยคาดว่าทีมไทยแลนด์ที่ประกอบด้วย‘บริษัท ใบยา ไฟโตฟาร์ม จำกัด’,‘องค์การเภสัชกรรม’ และ ‘บริษัท คินเจนไบโอเทค จำกัด’จะสามารถผลิตวัคซีนพร้อมใช้ได้เร็วที่สุดในช่วงปลายปีนี้


‘จุฬาฯ-ใบยา’พร้อมเพิ่มกำลังการผลิตเต็มที่60 ล้านโดสต่อปี รองรับ30 ล้านคน หนุนไทยผลิตวัคซีนโควิด-19 ในประเทศได้เองรวม260 ล้านโดสต่อปี

รศ.ดร.วรัญญู พูลเจริญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายเทคโนโลยีและผู้ร่วมก่อตั้งบริษัท ใบยาไฟโตฟาร์ม จำกัดเปิดเผยว่า “แพลตฟอร์มการผลิตวัคซีนของบริษัท ใบยา ไฟโตฟาร์ม จำกัด หากดำเนินการสำเร็จจะสามารถเพิ่มกำลังผลิตได้ถึง60 ล้านโดสต่อปี รองรับความต้องการใช้วัคซีนได้ถึง30 ล้านคน ซึ่งส่งผลดีให้ประเทศไทยมีกำลังการผลิตวัคซีนภายในประเทศรวมถึง260 ล้านโดสต่อปี เมื่อนับรวมกำลังการผลิตในส่วนของบริษัท สยามไบโอไซเอนซ์ จำกัด ดังนั้น ความสำเร็จจากการพัฒนาวัคซีนป้องกันโควิด-19ที่เราสามารถพัฒนาและผลิตได้เองโดยคนไทยตั้งแต่ต้นน้ำจึงเป็นความหวังของคนไทยและประเทศไทยที่จะสร้างความมั่นคงด้านสุขภาพให้กับพี่น้องของเราจากการมีวัคซีนเป็นของเราเองและยังช่วยขับเคลื่อนนวัตกรรมเพื่อมวลมนุษยชาติ ให้เราพึ่งพาตนเองเพื่อความยั่งยืน ซึ่งเป็นแนวทางของมูลนิธิซียูเอ็นเทอร์ไพรส์อีกด้วย”


มูลนิธิฯ ชวนคนไทย ร่วมเป็น#ทีมไทยแลนด์ เปิดรับบริจาคถึงสิ้นปี2564

มูลนิธิซียูเอ็นเทอร์ไพรส์ ยังคงเปิดรับบริจาคอย่างต่อเนื่องด้วยรูปแบบที่เอื้อให้ประชาชนสามารถเข้าถึงได้ง่าย ผ่าน 3 ช่องทางได้แก่
- ช่องทางที่ 1 บริจาคโดยตรงผ่านเลขบัญชี 162-6-01946-0 มูลนิธิซียูเอ็นเทอร์ไพรส์ ธนาคารกรุงไทย สาขา จามจุรีสแควร์
- ช่องทางที่ 2 สแกนQR Codeผ่าน Mobile Banking ของธนาคารใดก็ได้บนเว็บไซต์ www.CUEnterprise.co.th


บริจาคผ่านเคาน์เตอร์ธนาคารกรุงไทยทุกสาขา
เพียงแสดงบัตรประชาชน

สำหรับ#ทีมไทยแลนด์ ที่ได้บริจาคเข้ามาในโครงการแล้ว สามารถลงทะเบียนขอรับสิทธิ์สมนาคุณได้ที่ www.CUEnterprise.co.th และสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทร.0-2576-5500 หรือเว็บไซต์ www.CUEnterprise.co.th เฟซบุ๊ก CUEnterpriseOfficial และ ไลน์ @CUEnterprise


กำลังโหลดความคิดเห็น