วันนี้ (30 ธ.ค.) นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร ปฏิบัติหน้าที่รองอธิบดีกรมควบคุมโรค แถลงรายละเอียดการพบผู้ติดเชื้อหลายรายจากการเหมารถตู้จากกรุงเทพฯ ไปเที่ยวจังหวัดระยอง และจันทบุรี โดยทั้งรถมีผู้โดยสารทั้งหมด 11 คน โดยผู้ป่วยรายแรก เป็นหญิง อายุ 57 ปี มีอาการไข้ จมูกไม่ได้กลิ่น เจ็บคอ ตรวจพบเชื้อวันที่ 23 ธ.ค. 63 จากนั้นพบผู้ที่นั่งรถตู้คันเดียวกันติดเชื้ออีก 6 คน เป็นหญิงอายุ 68 ปี ชายอายุ 66 ปี ตรวจพบเชื้อวันที่ 25 ธ.ค. 63 เด็กหญิงอายุ 4 ขวบ พ่อแม่ของเด็กหญิง และหญิงอายุ 67 ปี ตรวจพบเชื้อวันที่ 27 ธ.ค. 63 ส่วนอีก 4 คน ที่นั่งรถตู้คันเดียวกัน ตรวจแล้วไม่พบเชื้อ นอกจากนี้ ยังพบกรณีผู้ที่มีประวัติเดินทางไป หรือมาจากจังหวัดระยอง และติดเชื้ออีก เช่น ที่จังหวัดเชียงใหม่ ลำปาง พระนครศรีอยุธยา อำนาจเจริญ นนทบุรี จันทบุรี ตราด ชลบุรี รวมแล้ว 9 จังหวัด
ดังนั้น ผู้ที่มีประวัติเดินทางไป 5 อำเภอของจังหวัดระยอง ได้แก่ อำเภอเมือง อำเภอแกลง อำเภอบ้านฉาง อำเภอนิคมพัฒนา และอำเภอบ้านค่าย หรือว่ามีประวัติไปยังสถานที่เสี่ยง เช่น บ่อนการพนัน หรือไปในพื้นที่ที่พบผู้ป่วยติดเชื้อ แล้วมีอาการไอ เจ็บคอ มีน้ำมูก จมูกไม่ได้กลิ่น ลิ้นไม่รับรส ขอให้รีบไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลใกล้บ้าน เพื่อขอรับการตรวจหาเชื้อ และขอให้สวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา เว้นระยะห่าง ล้างมือบ่อยๆ หลีกเลี่ยงไปในสถานที่แออัด แต่หากพ้นระยะ 14 วันแล้วยังไม่มีอาการป่วย ก็ถือว่าปลอดภัย
ส่วนกรณีพบผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 ในสถานบันเทิงและร้านอาหารในเขตกรุงเทพฯ คือ ร้านแซ่บอีสานคาราโอเกะ ย่านเทเวศน์, ร้านอีสานกรองแก้ว ย่านปิ่นเกล้า และร้านน้องใหม่พลาซ่า ย่านปิ่นเกล้า ซึ่งพบผู้ป่วยรายแรกในวันที่ 17 ธ.ค. 63 เป็นชายอายุ 31 ปี อาศัยอยู่ที่จังหวัดนนทบุรี จากนั้นมีผู้ที่เกี่ยวข้องกับร้านอาหารและสถานบันเทิงดังกล่าวอีก 22 คน แต่ล่าสุด จากการสอบสวนโรค พบว่า มีผู้ป่วยติดเชื้อเพิ่มอีก 10 คน ทำให้กลุ่มผู้ป่วยจากสถานบันเทิงและร้านอาหารกลุ่มนี้ มียอดผู้ติดเชื้อรวม 33 คนแล้ว ส่วนใหญ่มีอาการน้อย และไม่มีอาการ ซึ่งกรณีนี้เจ้าหน้าที่สามารถตรวจพบและสอบสวนโรคได้อย่างรวดเร็ว ดังนั้นหากใครที่มีประวัติเคยไปสถานบันเทิงและร้านอาหารดังกล่าว ช่วงวันที่ 17-20 ธ.ค. 63 ขอให้กักตัวสังเกตอาการ รวมทั้งสวมหน้ากากอนามัย หลีกเลี่ยงไปในที่สาธารณะ และหากมีอาการเข้าข่าย ขอให้รีบพบแพทย์
ด้าน นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค เปิดเผยว่า แม้ขณะนี้สถานการณ์ที่จังหวัดสมุทรสาครเริ่มดีขึ้น แต่ยังมีการระบาดในจังหวัดระยอง กรุงเทพฯ และชลบุรี ที่ประชุมคณะกรรมการอำนวยการศูนย์ปฎิบัติการฉุกเฉินด้านการแพทย์และสาธารณสุข จึงมีมติกำหนดข้อปฎิบัติในเทศกาลปีใหม่ ดังต่อไปนี้
- ให้คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด ทำแผนเตรียมความพร้อมรับมือให้เหมาะสมกับสถานการณ์จังหวัดของตัวเอง และให้สอดคล้องกับมาตรการของ ศบค. รวมทั้งติดตามประเมินผลเป็นระยะ
- งดจัดกิจกรรมสาธารณะในช่วงเทศกาลปีใหม่ ในพื้นที่ควบคุมสูงสุด ส่วนพื้นที่เฝ้าระวังให้ลดการจัดกิจกรรมลงให้มากที่สุด ให้อยู่เฉพาะในครอบครัว หากจะจัดกิจกรรมใดๆ ต้องได้รับอนุญาตจากผู้ว่าราชการจังหวัด รวมทั้งต้องมีมาตรการป้องกันโรค ลดความแออัดของผู้ร่วมกิจกรรม หากมีคนเข้าร่วมมากกว่า 100 คน ต้องขออนุญาต
- การจัดกิจกรรมช่วงปีใหม่ เช่น สวดมนต์ข้ามปี ให้เน้นจัดแบบ Virtual หรือแบบออนไลน์
- แรงงานต่างด้าว ให้อยู่แต่ภายในพื้นที่จังหวัด ในที่พักของตัวเอง หรือสถานที่ทำงาน งดการไปมาหาสู่กัน และให้นายจ้างตรวจสอบดูแลลูกจ้างอย่างเข้มงวด อย่าให้แรงงานต่างด้าวพาเพื่อนจากพื้นที่อื่นเข้ามา หรืออย่าให้ลูกจ้างไปยังสถานที่อื่น
- ให้อาสาสมัครเคาะประตูบ้านให้ความรู้ประชาชน และสอดส่องว่ามีแรงงานต่างด้าวจากพื้นที่อื่นเข้ามาหรือไม่ หากพบเห็นให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่
- ให้ประชาชนหลีกเลี่ยงสถานที่เสี่ยง เช่น บ่อนการพนัน
นพ.โอภาส ย้ำว่า พื้นที่ที่เสี่ยงต่อการระบาดของโรค คือ ตลาดกลางกุ้งที่สมุทรสาคร บ่อนการพนันที่จังหวัดระยองและจังหวัดใกล้เคียง รวมทั้งสถานบันเทิง เพราะถือเป็นพื้นที่ที่มีอากาศถ่ายเทไม่สะดวก มีคนรวมตัวกันจำนวนมาก ไม่สวมหน้ากากอนามัย มีการตะโกนหรือใช้เสียงดัง อีกทั้งเมื่อมีการติดเชื้อ ผู้ป่วยมักไม่บอกความจริง ทำให้ต้องเสียเวลาในการซักประวัติ ดังนั้น จึงขอความร่วมมือประชาชน หากพบเห็นบ่อนการพนัน ขอให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ทันที ยิ่งในช่วงที่มีการประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน บ่อนการพนันถือเป็นสถานที่ที่เป็นภัยต่อประเทศ