กทม.ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มอีก 14 ราย แยกเป็น 2 กลุ่ม คือ กลุ่มที่ติดเชื้อในประเทศ จากสถานบันเทิง-ชุมชน-อาชีพเสี่ยง และสัมผัสกับผู้ป่วยก่อนหน้านี้ จำนวน 11 ราย และกลุ่มที่ติดเชื้อในประเทศ แต่อยู่ระหว่างสอบสวนโรค 3 ราย ทำยอดติดเชื้อพุ่ง 108 รายแล้ว เผยคนไปร้าน “อีสานกรองแก้ว” และร้าน “น้องใหม่คาราโอเกะ” ติดต่อหาเชื้อโควิด-19
หลังจากศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) รายงานตัวเลขผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยภาพรวมพบมีผู้ติดเชื้อเพิ่ม 155 ราย หากแยกเฉพาะในพื้นที่กรุงเทพมหานคร (กทม.) พบมีผู้ติดเชื้อใหม่ 14 ราย แบ่ง 2 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มที่ 1 ติดเชื้อในประเทศ จากสถานบันเทิง, ชุมชน, อาชีพเสี่ยง และสัมผัสกับผู้ป่วยก่อนหน้านี้ จำนวน 11 ราย เป็นสัญชาติไทยทั้งหมด แยกเป็นเพศชาย 4 ราย อายุ 28, 44, 46 และ 70 ปี และเพศหญิง 7 ราย อายุ 21, 31, 38, 41, 44 (2 ราย) และ 54 ปี มีอาการป่วย 6 ราย ไม่มีอาการ 5 ราย รักษาตัวที่ รพ.ศิริราช 3 ราย และ รพ.เอกชนในพื้นที่ กทม. 8 ราย
กลุ่มที่ 2 ติดเชื้อในประเทศแต่อยู่ระหว่างสอบสวนโรค 3 ราย สัญชาติไทยทั้งหมด แยกเป็น เพศชาย 1 ราย อายุ 20 ปี และเพศหญิง 2 ราย อายุ 51 และ 57 ปี มีอาการป่วย 2 ราย ไม่มีอาการ 1 ราย รักษาตัวที่ รพ.ศิริราช 1 ราย และ รพ.เอกชนในพื้นที่ กทม. 2 ราย ทำให้ขณะนี้ยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ระลอกใหม่ในกรุงเทพมหานคร เพิ่มเป็น 108 รายแล้ว
ล่าสุด วันนี้ (29 ธ.ค.) ที่ศาลาว่าการ กทม. ร.ต.อ.พงศกร ขวัญเมือง โฆษกกรุงเทพมหานคร แถลงภายหลังการประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) กรุงเทพมหานคร (ศบค.กทม.) โดยมี พล.ต.ท.โสภณ พิสุทธิวงษ์ รองผู้ว่าฯ กทม. ในฐานะผู้อำนวยการ ศบค.กทม. เป็นประธานว่าที่ประชุม ศบค.กทม.มีมติให้แจ้งด่วนถึงประชาชนที่ไปใช้บริการ ร้านอาหารอีสานกรองแก้ว และ ร้านน้องใหม่คาราโอเกะ หรือร้านน้องใหม่พลาซ่า ซึ่งอยู่ภายในซอยออมสิน หลังห้างพาต้าปิ่นเกล้า ตั้งแต่วันที่ 15-29 ธ.ค. 63 โดยให้ติดต่อด่วนที่สำนักอนามัย เบอร์ 02-203-2393 และ 02-203-2396 เนื่องจากมีผู้ป่วยจาก จ.นนทบุรี มาใช้บริการ และพบพนักงานในร้านติดเชื้อโควิด-19 อาจมีการแพร่ระบาดเป็นกลุ่มก้อน ดังนั้น จึงขอให้ประชาชนที่เดินทางไปใช้บริการยังสถานที่ดังกล่าวและบริเวณโดยรอบติดต่อมาด่วน เพื่อเจ้าหน้าที่จะนัดมาทำการSWAB ตรวจหาเชื้อ ซึ่งข้อมูลของท่านจะเป็นความลับ
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ในพื้นที่กรุงเทพฯพบผู้ติดเชื้อเพิ่มอีก 14 ราย รวมทั้งสิ้น 108 ราย โดยในจำนวน 14 ราย มี 11 ราย พบในพื้นที่กรุงเทพฯ ส่วนอีก 3 รายอยู่ระหว่างการสอบสวน
ทั้งนี้ ที่กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) นพ.วิชาญ ปาวัน ผู้อำนวยการสถาบันป้องกันควบคุมโรคเขตเมือง (สปคม.) กรมควบคุมโรค กล่าวว่า สถานการณ์ภาพรวมของกรุงเทพมหานคร (กทม.) จำนวนผู้ป่วยที่พบในพื้นที่แบ่งเป็น 3 กลุ่ม ได้แก่ 1. เชื่อมโยง จ.สมุทรสาคร มีผู้ติดเชื้อกว่า 70 ราย ในพื้นที่เขตบางขุนเทียน 27 ราย หนองแขม 7 ราย บางแค 5 ราย โดยส่วนใหญ่เป็นผู้ที่อยู่บริเวณรอยต่อ จ.สมุทรสาคร การกระจายของผู้ป่วยจะอยู่เป็นกลุ่มๆ ลักษณะคล้ายชุมชน 2. ในโรงงานผลิตรองเท้าแห่งหนึ่งย่านพระราม 2 เขตบางขุนเทียน ซึ่งการสอบสวนโรค พบผู้ป่วย 7 ราย เป็นชาย 6 ราย หญิง 1 ราย เป็นคนไทย 1 ราย และชาวเมียนมา 6 ราย เป็นพนักงานรายวันในสายการผลิตเดียวกัน โดยผู้ป่วยรายแรกเป็นชายเมียนมาเริ่มป่วยเมื่อวันที่ 17 ธันวาคม จากการสอบสวนโรคเพิ่มเติมด้วยการเก็บตัวอย่างบริเวณที่ผู้ป่วยทำงาน พบว่า มีเชื้อปนเปื้อนที่ก๊อกน้ำ อ่างน้ำและห้องน้ำ ดังนั้น ปัจจัยเสี่ยงของการแพร่โรคแห่งนี้จึงอยู่ที่การเป็นพนักงานใสนสายการผลิตเดียวกันและใช้ห้องน้ำร่วมกัน
นพ.วิชาญ กล่าวว่า 3. กลุ่มก้อนสถานบันเทิง พบผู้ติดเชื้อแล้ว 22 ราย โดยพบว่าผู้ป่วยรายแรก เป็นนักเที่ยวจาก จ.นนทบุรี ที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนนทบุรี (สสจ.) ได้รายงานเป็นผู้ติดเชื้อก่อนหน้านี้และได้แถลงไทม์ไลน์แล้ว โดยยังพบผู้ติดเชื้อต่อเนื่อง ซึ่งปัจจุบันการสอบสวนโรคพบว่ากลุ่มผู้ติดเชื้อให้ข้อมูลสอดคล้องกันว่าร้านอาหารที่เกี่ยวข้องกับผู้ป่วย 3 ร้าน ประกอบด้วย 1. ร้านอีสานกรองแก้ว แถวปิ่นเกล้า 2. ร้านแซ่บอีสานคาราโอเกะ ย่านเทเวศร์ และ 3. ร้านน้องใหม่พลาซ่า ย่านปิ่นเกล้า ดังนั้น สธ.และ กทม.ขอความร่วมมือนักเที่ยวที่เข้าไปใน 3 ร้าน ระหว่างวันที่ 15-20 ธันวาคม ขอให้สังเกตอาการตนเอง พักอยู่บ้านจนครบ 14 วัน หากสังสัยมีอาการป่วย ขอให้ใส่หน้ากากอนามัย ใช้รถส่วนตัว ไปรับการตรวจที่สถานพยาบาลทุกแห่ง พร้อมแจ้งประวัติความเสี่ยง