เมื่อวันที่ 23 ต.ค. 63 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินทรงบำเพ็ญพระราชกุศลเนื่องในวันคล้ายวันสวรรคตพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ณ พระที่นั่งอัมรินทรวินิจฉัย พระบรมมหาราชวัง ในการนี้ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภาฯ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรีฯ โดยเสด็จร่วมพระราชพิธีดังกล่าวด้วย ทั้งนี้ พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พร้อมด้วย นางศิลปสวย ระวีแสงสูรย์ ปลัดกรุงเทพมหานคร ร่วมเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทรับเสด็จ และเฝ้ารับเสด็จด้วย
วันเดียวกันนี้ เวลา 15.00 น. นายสกลธี ภัททิยกุล รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร นำคณะผู้บริหารกรุงเทพมหานคร วางพวงมาลาและถวายบังคมพระบรมราชานุสรณ์พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ณ พระลานพระราชวังดุสิต จากนั้นรองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พร้อมคณะผู้บริหารกรุงเทพมหานคร ร่วมเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทรับเสด็จ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ในการเสด็จพระราชดำเนินไปทรงวางพวงมาลาและถวายราชสักการะพระบรมราชานุสรณ์พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และเฝ้ารับเสด็จ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภาฯ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรีฯ ซึ่งโดยเสด็จในการทรงวางพวงมาลา ด้วย
นอกจากนี้ เมื่อเวลา 08.30 น. พญ.วันทนีย์ วัฒนะ รองปลัดกรุงเทพมหานคร เป็นผู้แทนผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และปลัดกรุงเทพมหานคร วางพวงมาลาถวายบังคมพระบรมราชานุสรณ์พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เพื่อน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ของพระองค์ ณ โรงพยาบาลกลาง เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย โดยผู้บริหารกรุงเทพมหานคร ผู้บริหารสำนักการแพทย์ บุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขของกรุงเทพมหานคร ร่วมพิธีวางพวงมาลาในโอกาสนี้ด้วย
สำหรับวันที่ 23 ตุลาคมของทุกปี เป็นวันคล้ายวันสวรรคตพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ทั้งนี้ เพื่อแสดงออกซึ่งความจงรักภักดี และน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ของพระองค์ หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน จึงร่วมพิธีวางพวงมาลาและถวายบังคมหน้าพระบรมราชานุสรณ์ ณ พระลานพระราชวังดุสิต เป็นประจำทุกปี
พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เป็นพระมหากษัตริย์สยาม รัชกาลที่ 5 แห่งราชวงศ์จักรี มีพระนามเดิมว่า “เจ้าฟ้าจุฬาลงกรณ์” เป็นพระราชโอรสในพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 กับสมเด็จพระเทพศิรินทรา บรมราชินี (สมเด็จพระนางรําเพยภมรภิรมย์) ประสูติเมื่อวันที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2396 ทรงรับสถาปนาเป็นกรมหมื่นพิฆเนศวรสุรสังกาศ และกรมขุนพอนิจประชานาถ ทรงครองราชย์เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2411 และเสด็จสวรรคตวันที่ 23 ตุลาคม พ.ศ. 2453 พระชนมายุ 57 พรรษา ทั้งนี้ ในรัชสมัยของพระองค์เกิดการเปลี่ยนแปลงมากมายในบ้านเมืองของเราที่สร้างความ เจริญก้าวหน้า ให้ทัดเทียมกับนานาอารยประเทศ สำหรับพระราชกรณียกิจสำคัญที่นับว่าเป็นการปฏิรูปประเทศครั้งยิ่งใหญ่ คือ การเลิกทาสอย่างค่อยเป็นค่อยไป ปราศจากการเสียเลือดเนื้อหรือการต่อต้านที่รุนแรง โดยอาศัยมาตรการทางกฎหมายและด้วยพระปรีชาสามารถของพระองค์ จนประสบความสำเร็จได้ในเวลา 30 ปีเศษ ทาสในเมืองไทยจึงหมดไป นอกจากนี้ ยังมีการปฏิรูประบบราชการให้ทันสมัย การปฏิรูประบบสาธารณูปโภคพื้นฐาน เช่น การไฟฟ้า การประปา การไปรษณีย์-โทรเลข-โทรศัพท์ และการสาธารณสุข พระองค์ทรงเป็นที่รักใคร่อย่างล้นเหลือของพสกนิกรทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ พระองค์จึงได้รับการถวายพระราชสมัญญานามว่า “สมเด็จพระปิยมหาราช”