ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา เพื่อนคนหนึ่งหารือเรื่องลูกที่กำลังเข้าสู่วัยรุ่นไม่ค่อยมีภาวะผู้นำ เวลาทำงานเป็นทีมกับเพื่อนๆ มักจะชอบเป็นผู้ตามมากกว่า ซึ่งมีลักษณะแบบนี้ตั้งแต่เขายังเล็ก ที่ไม่ค่อยกล้าแสดงออก แม้ผู้เป็นแม่จะพยายามแก้ไข แต่ดูเหมือนจะไม่สำเร็จ และเป็นกังวลว่าจะเป็นปัญหาต่อไปในอนาคต
บทสนทนาของเราไม่ได้มีข้อสรุปที่ชัดเจน เพราะลักษณะและบุคลิกภาพ รวมถึงทักษะชีวิตของคนๆ หนึ่งกว่าจะเติบโตขึ้นมามีองค์ประกอบมากมายที่หล่อหลอมกว่าจะมีวันนี้
แต่สิ่งหนึ่งที่ทำให้ฉุกคิดขณะที่สนทนากัน และเห็นสอดคล้องว่าทักษะสำคัญของเด็กยุคนี้ที่ดูเหมือนจะหายไปก็คือเรื่อง “ภาวะผู้นำที่ดี”
เราต้องยอมรับว่าสังคมไทยมีปัญหาเรื่องภาวะผู้นำที่ดีในทุกระดับของสังคม...
กำลังกลายเป็นปัญหาใหญ่ที่ทำให้เด็กและเยาวชนขาดแบบอย่างที่ดี
ความจริงเรื่องภาวะผู้นำมีอยู่ในตัวทุกคน เพียงแต่อยู่ที่ว่าตัวเองได้รับการฝึกฝนหรือไม่ หรือได้มีโอกาสหรือเปล่า และเมื่อถึงคราวได้เป็นผู้นำแล้วเป็นผู้นำแบบไหน
ภาวะผู้นำเป็นรากฐานสำคัญที่นำไปสู่ความสำเร็จในชีวิตแทบจะทุกด้านไม่ว่าเรื่องครอบครัว การงาน การเรียน รวมไปถึงการอยู่ร่วมในสังคม ซึ่งสังคมไทยก็ต้องการคนรุ่นใหม่ที่มีภาวะผู้นำเพื่อเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาประเทศ
ปัจจุบันผู้ใหญ่จำนวนไม่น้อยที่มีความเข้าใจว่า ผู้นำ (leader) เป็นพรสวรรค์ที่ติดตัวมาตั้งแต่เกิด แต่ในความเป็นจริงทุกคนสามารถที่จะพัฒนาภาวะผู้นำ (leadership) ได้ เพราะการพัฒนาภาวะผู้นำนั้นเป็นกระบวนการต่อเนื่องที่ต้องสั่งสมชีวิต ประสบการณ์ ความรู้ความเข้าใจ รวมไปถึงการถูกเลี้ยงดูมาตั้งแต่เล็ก การถูกหล่อหลอมจากสภาพแวดล้อม และการฝึกฝนทักษะในด้านต่าง ๆ เป็นระยะเวลานานอย่างต่อเนื่อง
และคนที่ทำหน้าที่บ่มเพาะตั้งแต่ต้นทางได้ดีที่สุดก็คือพ่อแม่ ผู้ปกครอง ซึ่งสามารถสร้างภาวะผู้นำให้ลูกได้ตั้งแต่เล็ก สร้างได้จากการเลี้ยงดู การเป็นแบบอย่างของพ่อแม่ พี่น้อง หรือคนใกล้ชิด พ่อแม่ก็สามารถสังเกตเห็นได้ว่าลูกของเรามีภาวะผู้นำหรือไม่ และพ่อแม่ได้สร้างสภาวะแวดล้อมเพื่อส่งเสริมให้ลูกได้มีโอกาสฝึกฝนการเป็นผู้นำที่ดีหรือเปล่า
การแสดงออกถึงภาวะผู้นำของเด็ก ๆ จะโดดเด่นขึ้นเมื่อได้รวมกลุ่มกับเพื่อน ๆ เริ่มจากเป็นผู้ที่เพื่อนเชื่อถือให้ความไว้วางใจ หรือเมื่อเข้ากลุ่มก็จะแสดงออกถึงความเป็นผู้นำกลุ่ม เด็กที่มีภาวะความเป็นผู้นำส่วนใหญ่มักจะมีทักษะในการพูดที่ดี กล้าแสดงออก มีมนุษยสัมพันธ์ที่ดี รู้จักคิดวิเคราะห์ สามารถโน้มน้าวให้ผู้อื่นคล้อยตามได้
แต่ก็มีเด็กบางคนอาจมีภาวะผู้นำเวลาอยู่ในกลุ่มเพื่อน แต่เมื่ออยู่บ้านพ่อแม่กลับไม่เห็นศักยภาพในตัวลูกก็มี ฉะนั้น เป็นเรื่องที่พ่อแม่ผู้ปกครองต้องหมั่นสังเกตพฤติกรรมของลูก และทำหน้าที่กระตุ้นให้ลูกได้มีโอกาสแสดงภาวะผู้นำในหลากหลายสถานการณ์
เริ่มจากการฝึกให้ลูกมีความรับผิดชอบตามวัยตั้งแต่เล็ก เริ่มจากเรื่องง่าย ๆ และค่อย ๆ ขยับให้ยากขึ้นเรื่อย ๆ โดยเริ่มจากรับผิดชอบตัวเอง จากนั้นก็มอบหมายให้รับผิดชอบภายในบ้าน และขยายไปสู่รับผิดชอบต่อเรื่องอื่น ๆ ที่ใหญ่ขึ้น สิ่งสำคัญต้องให้ลูกได้เรียนรู้ความหมายของคำว่ารับผิดชอบด้วย คือ ต้องรับผิด และรับชอบ มิใช่รับชอบอย่างเดียว แต่ไม่ยอมรับผิด เรียกว่าเป็นจุดเริ่มต้นของการเป็นผู้นำที่ดี
จากนั้นก็ฝึกให้รับฟังผู้อื่น เพราะการรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่นจะเรียนรู้ถึงความแตกต่างทางความคิด ซึ่งจะทำให้การอยู่ร่วมกันของเพื่อนหรือของกลุ่มที่มีความคิดเห็นแตกต่างให้สามารถทำงานร่วมกัน หรือมีจุดกึ่งกลางที่จะทำงานร่วมกันได้ เพราะผู้นำที่ดีต้องไม่ใช้อำนาจสั่งให้คนทำตามใจตนเอง
รวมถึงการที่พ่อแม่ช่วยเสริมสร้างความมั่นใจในตัวเองให้กับเด็ก ๆ โดยเปิดโอกาสให้ลูกได้แสดงความคิดเห็น และมีส่วนร่วมในการตัดสินใจเรื่องต่าง ๆ นั้น จะช่วยหล่อหลอมความเชื่อมั่น และสร้างให้ลูกเป็นคนที่กล้าคิด กล้าทำ กล้าแสดงออก ซึ่งเป็นภาวะที่สำคัญของการเป็นผู้นำ ไม่ว่าลูกจะไปอยู่ที่ไหนก็ตาม ความกล้าแสดงออก จะทำให้ลูกโดดเด่น จนเป็นที่ยอมรับของคนทั่วไป
ที่สำคัญควรเรียนรู้ว่าความสำเร็จจะเกิดขึ้นได้ ควรมีการวางเป้าหมายในชีวิตที่ชัดเจน เพราะคนที่มีเป้าหมายที่ชัดเจน มักนำพาชีวิตของตนเองให้ประสบความสำเร็จได้ ซึ่งวิธีง่าย ๆ ที่จะฝึกให้ลูกสร้างเป้าหมายในชีวิตนั่นก็คือ การฝึกให้ลูกได้วางแผนในชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็นการให้ลูกฝึกทำตารางกิจวัตรประจำวันของตนเอง หรือการชวนลูกพูดคุยถึงอนาคตที่ลูกอยากจะเป็น
ประการสุดท้าย ต้องสร้างมุมมองของการเป็นผู้นำที่ดี พ่อแม่ควรสอนมุมมองที่ถูกต้องเหมาะสมในการเป็นผู้นำให้ลูกได้เข้าใจ โดยอาจยกตัวอย่างจากข่าวสารบ้านเมือง บุคคลสำคัญ ภาพยนตร์ หนังสือ หรือบุคคลใกล้ชิดที่รู้จัก ฯลฯ และชี้ให้ลูกได้เห็นตัวอย่างการเป็นผู้นำที่ดีบ่อยๆ
อย่างไรก็ตาม ต้องให้ลูกได้เรียนรู้บทบาททั้งการเป็นผู้นำที่ดีและผู้ตามที่ดีด้วย
ผู้นำไม่ใช่เฉพาะผู้ที่มีตำแหน่งนำหน้าเท่านั้น แต่ควรฝึกให้ลูกได้เรียนรู้ว่า ทุกคนสามารถสลับบทบาทกันได้ อาจยกสถานการณ์ในครอบครัว และส่งบทบาทให้ลูกได้มีโอกาสเป็นผู้นำ และในโอกาสต่อไปก็ให้เป็นผู้ตาม
ที่สำคัญการเป็นผู้นำที่ดี ต้องเหนื่อยกว่าผู้อื่น เพราะในความเป็นจริงแล้วการเป็นผู้นำ เท่ากับเป็นการฝึกฝนพัฒนาทักษะชีวิต ซึ่งท้ายสุดจะส่งผลให้กลายเป็นลักษณะนิสัยที่ดีติดตัวไปในระยะยาวไม่ว่าจะเป็นความมุ่งมั่นเอาจริงเอาจัง อดทนพากเพียรพยายาม ความรับผิดชอบในเรื่องต่างๆ ซึ่งเป็นรากฐานสำคัญของคนที่ประสบความสำเร็จชีวิต
สอนลูกให้เป็นผู้นำทำได้ไม่ยาก แต่สอนให้เป็นผู้นำที่ดีก็ไม่ง่าย !