รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข มอบรางวัลแพทย์ชนบทดีเด่นกองทุนนายแพทย์กนกศักดิ์ พูลเกสร แก่ ผอ.โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชท่าบ่อ จ.หนองคาย ผอ.โรงพยาบาลบึงโขงหลง จ.บึงกาฬ และสูตินรีแพทย์ โรงพยาบาลโชคชัย จ.นครราชสีมา ขอให้แพทย์ทุกคนทุ่มเทเสียสละ เพื่อความถูกต้อง ประโยชน์บ้านเมือง พร้อมสนับสนุนการพัฒนาโรงพยาบาลชุมชน
วันนี้ (24 ก.ย.) ที่โรงแรมแกรนด์ ริชมอนด์ สไตลิช คอนเวนชั่น จังหวัดนนทบุรี นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานเปิดการประชุมวิชาการชมรมแพทย์ชนบทประจำปี 2563 “ระบบสาธารณสุขไทย ยุคสมัยแห่งความเปลี่ยนแปลง” พร้อมมอบรางวัล “แพทย์ชนบทดีเด่น กองทุนนายแพทย์กนกศักดิ์ พูลเกสร พ.ศ. 2562” ให้แก่แพทย์ชนบทดีเด่น จำนวน 3 คน และทีมงานโรงพยาบาลจำนวน 3 แห่ง ได้แก่ นายแพทย์วัฒนา พารีศรี ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชท่าบ่อ จังหวัดหนองคาย นายแพทย์ปราโมทย์ ศรีแก้ว ผู้อำนวยการโรงพยาบาลบึงโขงหลง จังหวัดบึงกาฬ และนายแพทย์แมนวัฒน์ โชคสุวัฒนสกุล แพทย์สูตินรีเวช ประจำโรงพยาบาลโชคชัย จังหวัดนครราชสีมา
นายอนุทิน ได้ปาฐกถาพีร์ คำทอน “ระบบสุขภาพกับการเผชิญความท้าทายแห่งอนาคต” มีใจความตอนหนึ่งว่า นายแพทย์พีร์ คำทอน ถือเป็นบุคคลตัวอย่างของแพทย์ที่มีความทุ่มเทและเสียสละ จึงขอให้ทุกคนถือเป็นแบบอย่าง เพื่อประโยชน์ของชาติบ้านเมือง เหมือนนายแพทย์พีร์ คำทอน และดูแลสุขภาพประชาชนในพื้นที่ อย่าให้เกิดความเดือดร้อนในเรื่องของการรับบริการต่างๆ หากมีความจำเป็นต้องพัฒนาปรับปรุงศักยภาพโรงพยาบาล ขอให้รายงานข้อมูลเข้ามา เพื่อที่ตนจะได้ไปดำเนินการจัดหางบประมาณมาสนับสนุน
สำหรับเรื่องการป้องกันควบคุมโรคโควิด-19 ประเทศไทยสามารถดำเนินการได้ดี เนื่องจากมีระบบบริการสุขภาพปฐมภูมิที่เข้มแข็ง มีโรงพยาบาลชุมชนในพื้นที่ร่วมดำเนินการ ถือเป็นความสำเร็จของทุกคนด้วย อย่างไรก็ตาม ระบบสาธารณสุขหลังโรคโควิด-19 หรือหลังจากมีวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ประเทศไทยจะเป็นจุดหมายของชาวต่างชาติในการเข้ามาลงทุน ท่องเที่ยว ใช้ชีวิต และรักษาพยาบาล ซึ่งทั้ง 4 ปัจจัยนี้ประเทศไทยมีความพร้อมแล้ว