จุฬาฯ จับมือ สพฐ.พลิกโฉมการศึกษาไทย เน้น Active Learning ตั้งเป้าครอบคลุมทั่วประเทศภายใน 2 ปี
วันนี้ (11 ส.ค.) ศ.กิตติคุณ ดร.วิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะที่กำกับดูแลกระทรวงศึกษาธิการ เป็นประธานแถลงข่าวความร่วมมือระหว่างจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กับ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) เรื่อง “พลิกโฉมคุณภาพการศึกษา ผู้เรียนทุกคนต้องเข้าถึงนวัตกรรมภายใน 2 ปี” โดย ศ.กิตติคุณ ดร.วิษณุ กล่าวว่า ประเทศไทยมีเป้าหมายในการปฏิรูปประเทศหลายด้าน ซึ่งหนึ่งในจำนวนนั้นคือการปฏิรูปการศึกษา ทั้งนี้ การปฎิรูปในประเทศไทยนั้นได้มีการเรียกร้องกันมาต่อเนื่องหลายปี โดยเฉพาะข้อเรียกร้องจากประชาชนมาทุกสมัย อันดับแรกคือการปฏิรูปการศึกษา อันดับสองก็คือปฏิรูปตำรวจ ซึ่งในส่วนของการปฏิรูปการศึกษารัฐธรรมนูญให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง จนรัฐบาลต้องตั้งคณะกรรมการอิสระเพื่อการปฏิรูปการศึกษาขึ้นมา และอยู่ในขั้นตอนของกฎหมายตามลำดับ
ศ.กิตติคุณ ดร.วิษณุ กล่าวว่า สิ่งหนึ่งที่คณะกรรมการปฏิรูปการศึกษา ได้ชี้เป้าไว้คือการปฏิรูปการเรียนการสอนและประกาศใช้บังคับไปแล้วในเวลานี้ คือพระราชบัญญัติพื้นที่นวัตกรรมการศึกษา ซึ่งมีความสำคัญมาก สำหรับเรื่องนี้ สพฐ. เป็นผู้รับผิดชอบซึ่งวันนี้จุฬาฯ ได้ทำความตกลงร่วมมือกับ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ในการพลิกโฉมคุณภาพการศึกษาไทย ให้ผู้เรียนทุกคนต้องเข้าถึงนวัตกรรมภายใน 2 ปี ในเบื้องต้นมีเป้าหมาย คือ โรงเรียนต้นแบบการพัฒนาผู้เรียนให้เข้าถึงนวัตกรรมได้ทุกคนในทุกจังหวัด ในระยะแรกจังหวัดละไม่เกิน 200 คน จำนวนโรงเรียนไม่น้อยกว่า 3 โรง ก่อนขยายผลให้ครอบคลุมทุกโรงเรียน ทุกขนาดทั่วประเทศ ซึ่งจะยกระดับศักยภาพผู้เรียนการศึกษาขั้นพื้นฐาน ในการพัฒนาคุณภาพชีวิตของตนเอง ครอบครัว ชุมชน ท้องถิ่น และประเทศได้
สำหรับการปฏิรูปการเรียนรู้ด้วยการปรับวิธีสอนจาก Passive Learning ที่เน้นการป้อนข้อมูล โดยการท่องจำเนื้อหามาเป็นการจัดกระบวนการเรียนรู้แบบ Active Learning เพื่อให้ผู้เรียนสร้างความรู้ผ่านกระบวนการคิดขั้นสูงเชิงระบบ หรือ GPAS 5 Steps ด้วยการให้ผู้เรียนรวบรวมข้อมูลมาวิเคราะห์ สังเคราะห์ ออกแบบตัดสินใจ บนพื้นฐานคุณธรรมและค่านิยม เพื่อสังคมประเทศชาติ และนำความรู้ไปสู่การลงมือปฏิบัติอย่างมีแบบแผน
ด้าน ศ.ดร.บัณฑิต เอื้ออาภรณ์ อธิการบดีจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวเสริมว่า ปฏิรูปการศึกษาต่างก็มีเป้าหมายเดียวกันคือ ต้องการสร้างคน ผลิตคน ที่มีคุณภาพออกรับใช้สังคมไทยและสังคมโลก ดังนั้น ในการปฏิรูปการศึกษากระบวนการเรียนรู้กระบวนการสอนก็เป็นปัจจัยที่จะช่วยสร้างผลตามวัตถุประสงค์ที่ได้ตั้งไว้ และทุกวันนี้ นักเรียน นักศึกษา สามารถหาความรู้ผ่านอินเทอร์เน็ต YouTube ระบบออนไลน์ที่มีอยู่มากมาย แต่สิ่งสำคัญวันนี้ คือ ไม่ได้เน้นการสอนแบบ Passive Learning แต่เราจะเปลี่ยนมาเป็น Active Learning ทำอย่างไรให้นักเรียนสามารถเรียนรู้เพิ่มเติมด้วยตัวเอง เรียนรู้ผ่านระบบข้อมูลข่าวสารที่มีความพร้อม เรียนรู้ด้วยตัวเองตลอดชีวิต เพราะการเรียนรู้ด้วยตัวเองตัวนั้นจะเป็นตัวพื้นฐานที่สำคัญอีกด้วย
ดร.อำนาจ วิชยานุวัติ เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) กล่าวว่า เป็นที่ทราบดีว่า วันนี้เราจะต้องปรับกระบวนการเรียนการสอน กระบวนการการเรียนรู้ รวมถึงตัวเด็ก ซึ่งแต่ละเรื่องจะต้องเริ่มต้นที่ตัวเด็ก สอนให้เด็กได้กระบวนการ ที่เรียกว่า Active Learning ซึ่งการร่วมมือกับมหาวิทยาลัยราชภัฏวไลยอลงกรณ์ และ จุฬาฯ เพื่อต่อยอดการร่วมกันขับเคลื่อนงานการทำงานครั้งนี้ โดย สพฐ.จะนำไปขยายผลให้ครอบคลุมทั่วประเทศต่อไป