กรมควบคุมโรค วอนอย่าตีตราคนมาจาก “ระยอง” จนต้องปิดสถานที่หรือสั่งกักตัว ออก 3 ข้อแนะนำถึงผู้ว่าฯ ทุกจังหวัด ให้คนที่มาจากไทม์ไลน์เดียวกับทหารอียิปต์ รายงานตัวกับจังหวัด สธ.ช่วยประเมิน หากไม่เสี่ยงไม่ต้องกักตัว ปรึกษา รพ.รัฐใกล้บ้าน ตรวจแล็บฟรี คกก.โรคติดต่อประเมินสถานที่ หากเสี่ยงให้ปิดเฉพาะจุด
วันนี้ (16 ก.ค.) นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค (คร.) กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวถึงกรณีหลายพื้นที่หลายหน่วยงานประกาศปิดสถานที่ หรือให้กักตัว 14 วัน ในคนที่กลับมาจากระยอง หรือมาจากพื้นที่ใกล้คอนโด กทม.กรณีลูกทูต ว่า เราอยู่กับเลข 0 มาสักระยะ เมื่อเลข 0 กำลังจะขยับเล็กน้อย ก็มีความตระหนก แต่ตอนนี้เราดำเนินการหลายส่วนก็เริ่มมีความตระหนักกันมากขึ้น อย่างไรก็ตาม ตนเพิ่งหารือกับผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง จะมีการทยอยเปิดโรงเรียนตามลำดับ แต่โรงเรียนที่ปิดเป็นการปิดในเชิงป้องกัน เมื่อมีความผ่อนคลาย คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดระยองก็จะพิจารณาและทยอยเปิดจนครบ แต่การเปิดอยู่ภายใต้กรอบที่ต้องเฝ้าระวังไม่น้อยกว่า 14 วัน คือ จนถึงวันที่ 24 ก.ค. ภายใต้มาตรการต้องสวมหน้ากาก เว้นระยะห่าง ผู้ที่อาจอยู่ในข่ายเฝ้าระวังต้องลดกิจกรรมภายนอกบ้าน
นพ.สุวรรณชัย กล่าวว่า ผู้คนในไทม์ไลน์ ซึ่งประชาชนอาจมองไทม์ไลน์กว้างเกินไป แต่ความเสี่ยงเป็นแค่จุดๆ คือ โรงแรมดีวารี ห้างแพชชั่น และเส้นทางระหว่างโรงแรมและห้าง อยากให้โฟกัสไปที่ผู้ติดเชื้อที่มีรายเดียว อีก 30 ราย ไม่พบเชื้อ ไม่ว่าไปที่ไหนก็ตามไม่มีโอกาสแพร่เชื้อเลย หรือต่ำมากๆ ต้องโฟกัสกับผู้ติดเชื้อ อย่ากังวลหรือไปตีตราผู้คนที่มาจากจังหวัดระยอง เราตื่นตัวได้ เรามีกระทรวงมหาดไทยที่ตื่นตัว แต่เป็นเพียงให้ผู้เดินทางไปจากจังหวัดระยอง ได้รายงานให้จังหวัดหรือพื้นที่รับทราบ และสาธารณสุขจะประเมินความเสี่ยง และดำเนินการอย่างเหมาะสม ซึ่งผู้คนทีเดินทางไปจากจังหวัดระยองก็จะถูกมาตรการเรื่องเใาะรวังเท่านั้น ไม่มีการกักตัว แต่หากมีตนจะออกแนวทางปฏิบัติไปยังผู้ว่าราชการจังหวัด ในฐานะประธานคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดใน 3 เรื่อง คือ
1. ให้ประชาสัมพันธ์ประชาชนที่อาจจะอยู่ในไทม์ไลน์ อาจจะกว้างเกินไปก็ไม่เป็นไร ขอให้เข้ามาปรึกษายังสถานพยาบาลของรัฐใกล้บ้าน หากจำเป็นหรือกังวล เพื่อความมั่นใจจำเป็นต้องตรวจก็ตรวจแล็บโดยไม่มีค่าใช้จ่าย
2. ให้ผู้ที่เดินทางมารายงานตัวให้ทราบ เพื่อประเมิน ถ้าไม่มีความเสี่ยง ไม่จำเป็นต้องกักตัว
3. ให้สถานที่ต่างๆ ที่อาจมีผู้สัมผัสในไทม์ไลน์ไปอยู่หรือทำงานหรือเรียน จะให้คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดช่วยประเมิน ถ้าไม่จำเป็นต้องปิดก็ให้เปิด ให้จำเป็นต้องปิดก็ปิดเฉพาะวงแคบๆ เพื่อไม่ให้กระทบต่อวิถีชีวิตเกินความจำเป็น