สธ. ชี้ ไทยผ่านพ้นโควิดระลอกแรกแล้ว หลังไม่มีติดเชื้อในประเทศ 48 วัน แต่ขอใช้บทเรียนต่างประเทศ อย่าเดินซ้ำรอยระบาดรอบ 2 จากการใช้ชีวิตเสี่ยง อยู่ที่แออัด เข้มมาตรการป้องกัน สวมหน้ากากเมื่อออกจากบ้าน เว้นระยะห่าง ล้างมือ
วันนี้ (12 ก.ค.) นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร ผู้อำนวยการกองโรคติดต่อทั่วไป กรมควบคุมโรค (คร.) กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า แม้ว่าขณะนี้ประเทศไทยจะผ่านพ้นการระบาดในระลอกแรกไปแล้ว เนื่องจากไม่พบการติดเชื้อในประเทศต่อเนื่องเป็นเวลา 48 วัน และจำนวนผู้ติดเชื้อสะสมอยู่ในอันดับที่ 100 ของโลก เป็นผลมาจากความร่วมมือร่วมใจของประชาชนที่ช่วยกันป้องกันตัวเองจากโรคโควิด-19 อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ทั่วโลกยังพบการระบาดเป็นวงกว้างอยู่ โดยประเทศที่มีผู้ติดเชื้อสะสมสูงสุด คือ สหรัฐอเมริกา ตามด้วย บราซิล และ อินเดีย อีกหลายประเทศกลับมาพบผู้ติดเชื้อเป็นกลุ่มก้อนอีกครั้ง อาทิ ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ จีน (เขตปกครองพิเศษฮ่องกง) เป็นต้น ซึ่งเกิดจากพฤติกรรมการใช้ชีวิตที่มีความเสี่ยง เข้าไปอยู่ในพื้นที่แออัด เช่น สถานบันเทิง ตลาดค้าส่ง
นพ.โสภณ กล่าวว่า ขอให้คนไทยนำเหตุการณ์จากต่างประเทศมาเป็นบทเรียนไม่ให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำรอย โดยยังต้องเข้มมาตรการป้องกันตนเองจากเชื้อโควิด-19 ต่อไป และทำให้เป็นนิสัย ทั้งการสวมหน้ากากอนามัย/หน้ากากผ้าทุกครั้งที่ออกนอกบ้าน ไม่นำตัวเองไปสัมผัสกับความเสี่ยงต่างๆ เลี่ยงการไปอยู่ในสถานที่แออัดคนรวมกันจำนวนมาก เว้นระยะห่าง ล้างมือบ่อยๆ ที่สำคัญคือ เมื่อป่วยต้องอยู่บ้านพักรักษาตัวไม่ไปในสถานที่ต่างๆ ป้องกันการแพร่เชื้อสู่ผู้อื่น และเคร่งครัดการลงทะเบียนเข้า-ออก สถานที่เข้าใช้บริการในแพลตฟอร์มและแอปพลิเคชัน “ไทยชนะ” เพราะเมื่อหากพบผู้ติดเชื้อ จะใช้เป็นข้อมูลในการติดตามผู้สัมผัสนำเข้าสู่ระบบการเฝ้าระวัง ป้องกัน ควบคุมโรคต่อไป ขณะเดียวกัน กระทรวงสาธารณสุขได้เตรียมความพร้อมทั้งเครื่องมือ อุปกรณ์ และบุคลากรทางการแพทย์ เพื่อเตรียมรับมือหากเกิดการระบาดระลอก 2 ในประเทศ