xs
xsm
sm
md
lg

กทม.จับมือ พช.- สภาสตรีฯ เซ็น MOU โครงการสืบสาน อนุรักษ์ศิลป์ผ้าถิ่นไทยฯ ย้ำให้ข้าราชการ กทม.ใส่ผ้าไทยอย่างน้อย 2 วัน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร จับมือ กรมการพัฒนาชุมชน-ประธานสภาสมาคมสตรีแห่งชาติฯ ลงนามเซ็น MOU โครงการ “สืบสาน อนุรักษ์ศิลป์ผ้าถิ่นไทย ดำรงไว้ในแผ่นดิน” พร้อมขานรับมติ ครม. กำหนดให้ข้าราชการ กทม.ใส่ผ้าไทยอย่างน้อย 2 วัน หนุนสืบสานและอนุรักษ์วัฒนธรรมประเพณีไทย เพื่อสร้างรายได้ให้ชุมชนอย่างทั่วถึง

วันนี้ (3 ก.ค.) เมื่อเวลา 10.00 น. พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงว่าด้วยการประสานความร่วมมือ โครงการ “สืบสาน อนุรักษ์ศิลป์ผ้าถิ่นไทย ดำรงไว้ในแผ่นดิน” โดยมี นางวิภารัตน์ ไชยานุกิจ รองปลัดกรุงเทพมหานคร นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย และ ดร.วันดี กุญชรยาคง จุลเจริญ ประธานสภาสมาคมสตรีแห่งชาติในพระบรมราชินูปถัมภ์ ร่วมลงนามในบันทึกข้อตกลงว่าด้วยการประสานความร่วมมือฯ พร้อมด้วย คณะผู้บริหารกรุงเทพมหานคร คณะผู้บริหารและเจ้าหน้าที่กรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย และสภาสมาคมสตรีแห่งชาติในพระบรมราชินูปถัมภ์ ตลอดจนผู้เกี่ยวข้อง ร่วมพิธี ณ ห้องรัตนโกสินทร์ ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร

ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงมีพระราชปณิธานอันแน่วแน่ในการอนุรักษ์ ส่งเสริม และเผยแพร่ผ้าไทยอันเป็นศิลปะล้ำค่าของชาติให้คงอยู่เป็นเอกลักษณ์ และเป็นที่รู้จักในระดับสากล สร้างความภาคภูมิใจให้แก่คนไทย โดยรัฐบาลได้มีนโยบายในการสืบสานพระราชปณิธานดังกล่าว ด้วยการส่งเสริมให้หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชนแต่งกายด้วยผ้าไทยตามความเหมาะสมของท้องถิ่น และเพื่อเป็นการสืบทอดการดำเนินงานตามแนวพระราชดำริ ตลอดจนขับเคลื่อนนโยบายในการเชิดชูอัตลักษณ์อันทรงคุณค่าของผ้าท้องถิ่นไทย กรุงเทพมหานคร จึงได้ร่วมกับกรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย และสภาสมาคมสตรีแห่งชาติในพระบรมราชินูปถัมภ์ ลงนามบันทึกข้อตกลงว่าด้วยการประสานความร่วมมือโครงการ “สืบสาน อนุรักษ์ศิลป์ผ้าถิ่นไทย ดำรงไว้ในแผ่นดิน” ซึ่งนอกจากจะเป็นความร่วมมือกันเพื่ออนุรักษ์ สืบสานพระราชปณิธานงานด้านศิลปาชีพแล้ว ยังเป็นการส่งเสริม และเผยแพร่ผ้าไทยศิลปะอันล้ำค่าของชาติ ให้ปรากฏเป็นความภาคภูมิใจของคนไทยและเป็นความชื่นชมของชาวโลก รวมถึงเป็นการเชิดชูอัตลักษณ์คุณค่าผ้าท้องถิ่น เผยแพร่ประชาสัมพันธ์ให้เกิดกระแสความนิยมการแต่งกายผ้าไทยแก่ประชาชนทั่วประเทศ โดยเน้นในกลุ่มข้าราชการ พนักงานรัฐวิสาหกิจ ลูกจ้างหน่วยงานของรัฐ ให้ใช้ผ้าไทยอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งยังเป็นการสนับสนุนส่งเสริมการสร้างงาน สร้างอาชีพ สร้างรายได้ให้แก่กลุ่มสตรีในท้องถิ่นเพิ่มขึ้น ช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของชาวบ้านและชุมชน ตลอดจนเป็นการสืบสานอนุรักษ์ผ้าท้องถิ่นไทยให้คงคู่อยู่ในแผ่นดินสืบไป

สำหรับกิจกรรมในวันนี้ประกอบด้วย การเดินแฟชั่นโชว์ผ้าไทย นิทรรศการการจัดแสดงและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ผ้าไทยจากกรมการพัฒนาชุมชน ผลิตภัณฑ์ผ้าไทย OTOP จากจังหวัดต่างๆ อาทิ จังหวัดสุรินทร์ จังหวัดหนองบัวลำภู จังหวัดกาฬสินธุ์ จังหวัดสุโขทัย จังหวัดชัยภูมิ เป็นต้น และผลิตภัณฑ์ Bangkok Brand ผ้าไทยในกรุงเทพฯ จากพื้นที่เขตต่างๆ เช่น ผ้าไหมบ้านครัว เขตราชเทวี ผ้าขาวม้า ป้านาง เขตคลองสาน เป็นต้น โดยกิจกรรมดังกล่าวเป็นการช่วยการรณรงค์ให้คนไทยทุกเพศทุกวัยสวมใส่ผ้าไทยมากขึ้น ซึ่งปัจจุบันรัฐบาลได้รณรงค์ให้สวมใส่ผ้าไทยอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ประชาชนอนุรักษ์วัฒนธรรมไทยผ่านการสวมใส่ผ้าท้องถิ่นไทย และให้การสนับสนุนส่งเสริมการอนุรักษ์ผ้าไทยจากภูมิปัญญาไทยอย่างยั่งยืน

ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวเพิ่มเติมว่า เพื่อให้เป็นการสนองตอบต่อนโยบายของรัฐบาลที่ได้ตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 9 มิ.ย. 63 ในการส่งเสริมให้ข้าราชการ ประชาชน แต่งกายด้วยผ้าไทยตามความเหมาะสมของท้องถิ่นอย่างน้อยสัปดาห์ละ 2 วัน กรุงเทพมหานครจึงได้มีการรณรงค์เชิญชวนข้าราชการและบุคลากรของกรุงเทพมหานครแต่งกายด้วยการใช้และสวมใส่ผ้าไทยทุกวันอังคารและวันศุกร์ตามความเหมาะสมของการปฏิบัติงาน หรือหากข้าราชการและบุคลากรท่านใดต้องการสวมใส่ผ้าไทยในทุกวันก็สามารถทำได้ ยกเว้นวันจันทร์ที่ต้องสวมเครื่องแบบข้าราชการ เพื่อเป็นการรณรงค์ส่งเสริมให้มีการใช้ผ้าไหมหรือผ้าไทยในชีวิตประจำวัน เป็นแบบอย่างที่แสดงถึงการรักษามรดกและภูมิปัญญาของไทย รวมถึงเป็นการสนับสนุนอาชีพและเสริมสร้างรายได้ให้กระจายลงสู่ชุมชน เพื่อให้ประชาชนมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ทั้งนี้ ที่ผ่านมา กรุงเทพมหานครได้รณรงค์ให้ข้าราชการและบุคลากรในสังกัดกว่า 1 แสนคน แต่งกายด้วยการใช้และสวมใส่ผ้าไทยทุกวันศุกร์ โดยได้เริ่มรณรงค์เชิญชวนสวมใส่ผ้าไทยทุกวันศุกร์มาตั้งแต่ปี 2554 ซึ่งได้รับความร่วมมือด้วยดีจากข้าราชการและบุคลากรในสังกัดมาโดยตลอดจนถึงปัจจุบัน และกรุงเทพมหานครจะเป็นกำลังสำคัญในการสืบสานและอนุรักษ์ให้ผ้าท้องถิ่นไทยคงอยู่อย่างยั่งยืนสืบไป




















กำลังโหลดความคิดเห็น