จากข้อมูลของมหาวิทยาลัยจอร์เจียในสหรัฐอเมริกา ระบุว่า ประเทศไทยมีปัญหาขยะทางทะเลเป็นอันดับ 6 ของโลก โดยในปี 2560 ที่ผ่านมา ประเทศไทยมีขยะทั้งหมดรวมแล้ว 27.4 ล้านตันต่อปี หรือเฉลี่ย 1.1 กิโลกรัมต่อคนต่อวัน
น.ส.ดุษฎี ตันเจริญ กรรมการผู้จัดการบริษัท มั่นคงเคหะการ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า บริษัทฯมีความมุ่งมั่นอย่างยิ่งที่จะร่วมอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และร่วมแก้ไขปัญหาขยะในแม่น้ำ รวมถึงบริเวณอ่าวไทย เพราะการสร้างสิ่งแวดล้อมที่ดีจะนำไปสู่การมีชีวิตที่ดี หรือมี Well-being ดังนั้น ในปีนี้ มั่นคงเคหะการจึงได้เดินหน้าโครงการจัดการขยะลอยน้ำต่อเป็นเฟสที่ 2 โดยได้มอบทุ่นกักขยะ (Boom) ความยาว 175 เมตร ให้กับกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในวันทะเลโลก 8 มิถุนายน ที่ผ่านมา เพื่อดักขยะในเขตพื้นที่ชายฝั่งทะเลของสำนักงานทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งจำนวน 7 พื้นที่ ประกอบด้วย ระยอง ชลบุรี เพชรบุรี สุราษฎร์ธานี สงขลา พังงา และ กระบี่
งานวันทะเลโลก ประจำปี 2563 จัดขึ้นภายใต้ธีม Innovation for a Sustainable Ocean หรือ “นวัตกรรมเพื่อความยั่งยืนของมหาสมุทร” โดยในปีนี้ได้รับความร่วมมือจากองค์กรพันธมิตรหลายองค์กร ได้แก่ UNDP, UNEP, สมาคมบลูคาร์บอน, บมจ.มั่นคงเคหะการ, ธุรกิจเคมิคอลล์ เอส ซี จี และ มูลนิธิ TerraCycle Thai Foundation นอกจากนี้ ยังได้รับความสนใจจากหลายประเทศโดยได้ส่งเอกอัครราชทูต รวมถึงผู้แทนสถานทูตประจำประเทศไทยเข้าร่วมงานภายในงานได้มีการจัดนิทรรศการ “โครงการจัดการขยะลอยน้ำด้วยทุ่นกักขยะ (BOOM)” โดยบริษัท มั่นคงเคหะการ จำกัด (มหาชน) เพื่อสร้างความตระหนักรู้เรื่องปัญหาขยะในแหล่งน้ำซึ่งจัดแสดงพร้อมกัน 2 แห่ง คือ ที่ กรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม และที่วัดบางน้ำผึ้งนอก อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ
นอกจากนี้ ทางบริษัทฯยังได้เข้าร่วมเสวนาแลกเปลี่ยนความเห็นร่วมกับหน่วยงานราชการและภาคประชาคมในพื้นที่คุ้งบางกะเจ้า เรื่อง “ปัญหาขยะและสิ่งแวดล้อมทางทะเล” จัดขึ้นโดย สำนักงานทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 2 ซึ่งความคิดเห็นของผู้เข้าร่วมเสวนาในครั้งนี้ ได้สอดคล้องกับแนวคิดของ นายชาติชาย อุทัยพันธ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการ เล็งเห็นว่า ปัญหาขยะในทะเลกำลังเป็นเรื่องสำคัญ เนื่องจากมีการใช้ทรัพยากรเพิ่มมากขึ้นและการทิ้งขยะอย่างไม่เหมาะสม จนเกิดปัญหาขยะปะปนไปในสิ่งแวดล้อม ส่งผลกระทบไปยังชายฝั่งทะเล จึงจำเป็นต้องได้รับความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ที่มีความเข้มแข็ง ทั้งในด้านเทคโนโลยี และการจัดการที่ดี
ทั้งนี้ เมื่อปี 2562 บริษัทฯ ได้ร่วมกับหน่วยงานภาครัฐ เอกชน และชุมชนในพื้นที่จับมือกันแก้ไขปัญหาดังกล่าวโดยได้ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลง (MOU) 5 หน่วยงาน คือ กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) กรมการท่องเที่ยว กรมเจ้าท่า อบต.บางน้ำผึ้ง และบมจ.มั่นคงเคหะการ ดำเนินโครงการนำร่องจัดการขยะลอยน้ำบริเวณปากแม่น้ำ ด้วยการติดตั้งทุ่นกักขยะ หรือ BOOM ในพื้นที่ตำบลบางน้ำผึ้ง อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ รวม 250 เมตร 5 จุดสำคัญบริเวณริมแม่น้ำเจ้าพระยา พร้อมได้มอบเรือยนต์สำหรับเก็บขยะในแม่น้ำอีกจำนวน 1 ลำ ให้กับ อบต.บางน้ำผึ้ง เพื่อใช้เป็นสาธารณะประโยชน์ส่วนรวมหลังจากที่ติดตั้ง BOOM สามารถกักเก็บขยะได้มากถึงกว่า 4,000 กิโลกรัม หรือกว่า 4 ตัน ในระยะเวลาไม่ถึง 1 ปี โดยส่วนใหญ่เป็นขยะอินทรีย์ตามด้วยพลาสติกและโฟมที่มาจากการทิ้งไม่ถูกที่และไม่แยกขยะเข้าสู่กระบวนการรีไซเคิล
จากความสำเร็จของโครงการจัดการขยะลอยน้ำด้วยทุ่นกักขยะในพื้นที่คุ้งบางกระเจ้า ส่งผลบวกให้สิ่งแวดล้อมและคุณภาพของชีวิตผู้คนในชุมชนค่อยๆ ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง จึงเดินหน้าสร้างสรรค์กิจกรรมทำความสะอาดระหว่างทาง เพื่อลดปริมาณขยะที่จะไหลลงสู่ทะเลในปลายทาง ทำให้สามารถช่วยสัตว์ทะเลที่บาดเจ็บ หรือเสียชีวิตจากการกินขยะได้อย่างยั่งยืนและเห็นผลได้จริงต่อไป