xs
xsm
sm
md
lg

บัตรทองไฟเขียวผู้ป่วย “มะเร็งลำไส้ใหญ่” รับ “คีโมที่บ้าน” คาดนำร่อง 27 รพ.

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



บอร์ด สปสช.อนุมัติให้ “เคมีบำบัด” ที่บ้านในผู้ป่วยมะเร็งลำไส้ใหญ่ เริ่ม 27 รพ.นำร่อง ลดเสี่ยงติดเชื้อโควิด-19 ชี้ต้นทุนไม่ต่างจากการมา รพ. พร้อมเห็นชอบอัตราบริการสาธารณสุขระบบทางไกล และรับยาร้านยาใกล้บ้านโมเดล 3

วันนี้ (24 มิ.ย.) นพ.ศักดิ์ชัย กาญจนวัฒนา เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กล่าวว่า การประชุมบอร์ด สปสช.เมื่อวันที่ 15 มิ.ย. ที่ผ่านมา ได้อนุมัติให้ใช้งบค่าใช้จ่ายสำหรับกรณีโควิด-19 ปีงบประมาณ 2563 จ่ายเป็นค่าบริการสาธารณสุข 3 รายการเพิ่มเติม เพราะแม้สถานการณ์ไทยจะดีขึ้น แต่ทั่วโลกัระบาดต่อเนื่อง โดย 3 ราย ได้แก่

รายการแรก อนุมัติให้นำร่องบริการยาเคมีบำบัดสำหรับผู้ป่วยมะเร็งลำไส้ใหญ่ที่บ้าน (Home Chemotherapy for CA Colon) ในพื้นที่ที่มีความพร้อม เพื่อลดความเสี่ยงผู้ป่วยในการติดเชื้อโควิด-19 และเป็นไปตามหลักการเว้นระยะห่างทางสังคม ทำให้ผู้ป่วยได้รับเคมีบำบัดต่อเนื่อง ไม่ต้องมาที่โรงพยาบาล ซึ่งจากการให้บริการของ รพ.รามาธิบดี ตั้งแต่ปี 2559 พบว่า มีต้นทุนไม่ต่างจากมารับบริการในโรงพยาบาล นับเป็นทางเลือกบริการที่ดี ทั้งนี้ การให้บริการต้องเป็นไปตามมาตรฐานบริการหรือแนวทางปฏิบัติการของมะเร็งวิทยาสมาคมแห่งประเทศไทย คาดว่า จะมี รพ.นำร่อง 27 แห่ง ครอบคลุมทุกเขตสุขภาพในปีงบประมาณ 2563 การจ่ายเงินชดเชยค่าบริการจะเหมือนกับบริการผ่าตัดวันเดียวกลับ

“เป็นข้อเสนอของกรมการแพทย์และโรงเรียนแพทย์เพื่อลดความเสี่ยงติดเชื้อในช่วงโควิด-19 โดยผู้ป่วยมะเร็งจะเข้ารับการเตรียมพร้อมเพื่อให้เคมีบำบัดเฉพาะครั้งแรก และครั้งต่อไปผู้ป่วยสามารถรับเคมีบำบัดที่บ้านได้ สาเหตุที่เริ่มในผู้ป่วยมะเร็งลำไส้ใหญ่ เนื่องจากมีความพร้อมในเรื่องของยาและบริการ รวมถึงความพร้อมโรงพยาบาลที่จะทำในเรื่องนี้” เลขาธิการ สปสช. กล่าว


นพ.ศักดิ์ชัย กล่าวว่า รายการที่ 2 และ 3 ต่อเนื่องจากมติบอร์ด สปสช. เมื่อวันที่ 25 พ.ค. 2563 โดยเห็นชอบอัตราค่าบริการสาธารณสุขระบบทางไกล และสายด่วนสุขภาพจิต จำนวน 30 บาทต่อครั้ง และบริการจ่ายยาที่ร้านยา รูปแบบที่ 3 คือ ร้านยาดำเนินการจัดการด้านยาเอง ภายใต้โครงการผู้ป่วยรับยาใกล้บ้าน เพื่อลดความแออัดในโรงพยาบาล และเว้นระยะห่างทางสังคม โดยจ่ายเพิ่มเติมค่าจัดบริการด้านยาและเวชภัณฑ์ จำนวน 8,000 บาท สำหรับร้านยาเพื่อสำรองยา

นพ.ศักดิ์ชัย กล่าวว่า นอกจากนี้ บอร์ด สปสช.ยังเห็นชอบให้เพิ่มแนวทางบริการจัดการงบบริการโควิด-19 โดยในส่วนกรณีของหน่วยบริการที่มีความจำเป็นในการดูแลผู้ป่วยโควิด-19 ในรายที่มีภาวะแทรกซ้อนรุนแรงที่ทำให้มีค่าใช้จ่ายสูง และหากไม่ได้รับการรักษาจะเป็นอันตรายกับผู้ป่วย โดยให้หน่วยบริการสามารถอุทธรณ์ค่าใช้จ่ายเป็นรายกรณีภายใต้งบประมาณสำหรับบริการโควิด-19 ตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่ สปสช.กำหนด โดยคำนึงถึงความเห็นของผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน เพื่อเป็นการสนับสนุนหน่วยบริการในการดูแลผู้ป่วยโควิด-19 อย่างเต็มที่ และไม่เป็นภาระค่าใช้จ่ายของหน่วยบริการ


กำลังโหลดความคิดเห็น