จัดสรรทุนศิลปะร่วมสมัย 7 โครงการ ต่อยอดผลิตภัณฑ์ชุมชน สร้างรายได้ให้คนในท้องถิ่น-หนุนศิลปินบันทึกสถานการณ์โควิด-19 ผ่านงานศิลป์
ดร.วิมลลักษณ์ ชูชาติ ผู้อำนวยการสำนักงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย กระทรวงวัฒนธรรม กล่าวว่า สำนักงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย (สศร.) ได้พิจารณาจัดสรรเงินอุดหนุนโครงการเงินอุดหนุนการพัฒนาและส่งเสริมศิลปะร่วมสมัย ครั้งที่ 5 ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 จำนวน 7 โครงการ ดังนี้ 1. โครงการจัดศิลปกรรมร่วมสมัยและเชิงปฏิบัติการบนสื่ออินเทอร์เน็ตสังคมออนไลน์ โดย นายสุบิน เมืองจันทร์ 2. โครงการศิลปะบำบัดทุกข์ บำรุงสุข “หยุดเชื้อ อยู่บ้าน สร้างงานศิลป์ เพื่อแผ่นดิน สู้วิกฤตโควิด-19” โดย รศ.ลิปิกร มาแก้ว 3. โครงการการ์ตูนร่วมสมัยสู้วิกฤต โควิด-19 โดย นายเนติ พิเคราะห์ 4. โครงการ “พลังเพลง พลังศิลป์ หลังใจ” (เพื่อคนไทยสู้ภัยโควิด) โดย นายศรัณย์ ดุ้งบรรพต 5. โครงการ “ศิลปะร่วมสมัยสร้างสรรค์และต่อยอดผลิตภัณฑ์ชุมชน” โดยวิสาหกิจชุมชน บ้านช่างสกุลบายศรี 6. โครงการ “ศิลปะเพื่อการเยียวยา Art and Creative Healing” ณ ไอคอน อาร์ต แอนด์ คัลเชอร์ สเปซ โดย บริษัท ไอคอนสยาม จำกัด และ 7. โครงการต้นกล้าหัวใจไทย : การแสดงร่วมสมัยปลูกความเป็นไทยในใจเยาวชน โดย บริษัท คิดบวกสิปป์ จำกัด อย่างไรก็ตาม ทาง สศร. ได้ย้ำการสร้างสรรค์ผลงาน โดยให้เข้ากับสถานการณ์ของประเทศ รวมทั้งเป็นประโยชน์ต่อการเรียนรู้ของประชาชนทุกระดับ อีกทั้งยังสามารถต่อยอดสร้างมูลค่าเพิ่มให้งานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย และเผยแพร่สู่ประชาคมทั่วโลกได้
ด้าน นายเนติ พิเคราะห์ ผู้ประสานงานเครือข่ายศิลปินล้านนา กล่าวว่า โครงการการ์ตูนร่วมสมัยสู้วิกฤตโควิด-19 ได้จัดทำขึ้น โดยกลุ่มนักศึกษา ศิลปินรุ่นใหม่ ภาคเหนือ จำนวน 35 คน ในการสร้างสรรค์ผลงานศิลปะด้านการวาดภาพการ์ตูน ผ่านมิติทางศิลปะร่วมสมัย สร้างคุณค่าจาก แรงบันดาลใจในช่วงวิกฤตการณ์โควิด-19 จำนวน 35 เรื่อง เพื่อบันทึกประวัติศาสตร์วิกฤตการณ์โรคติดต่อโควิด- 19 โดยจะแสดงผลงานทางออนไลน์ผ่านสื่อดิจิทัลในรูปแบบต่างๆ ด้วย
ขณะที่ นายธนากร สดใส ประธานกลุ่มวิสาหกิจชุมชนช่างสกุลบายศรี กล่าวว่า โครงการศิลปะร่วมสมัยสร้างสรรค์และต่อยอดผลิตภัณฑ์ชุมชน โดยการนำองค์ความรู้จากภูมิปัญญาท้องถิ่น จากความเชื่อ สู่งานหัตถกรรมร่วมสมัย ซึ่งมีการถอดรหัสอัตลักษณ์ของชุมชน ไปใช้ในการออกแบบผลิตภัณฑ์ จากต้น กล้วยตานี ที่มากกว่าผลิตภัณฑ์ชุมชน เช่น งานตกแต่ง งานดีไซน์ และงานเฟอร์นิเจอร์ โดยใช้นวัตกรรมใหม่เข้ามามีส่วนร่วม ให้มีความสวยงามคงทนมากยิ่งขึ้น นอกจากสร้างงาน สร้างรายได้ ให้กับคนในชุมชนแล้ว ในอนาคตจะมีการจัดตั้งศูนย์การเรียนรู้ด้านการออกแบบสำหรับชุมชน เพื่อการส่งเสริมด้านการท่องเที่ยวทางวัฒนธรรม และการนำเสนอผลงานศิลปะการออกแบบร่วมสมัยในระดับชาติ และระดับนานาชาติต่อไปอีกด้วย