สธ.ย้ำ การ์ดอย่าตก หลังไทยไม่มีติดเชื้อในประเทศ 16 วัน ยังต้องสวมหน้ากากเวลาออกไปข้างนอก ยิ่งไปเที่ยวยิ่งต้องใส่ ขอให้พกเป็นปัจจัยที่ 6 ต่อจากสมาร์ทโฟน จนกว่าโควิดจะหมดไป หรือมีวัคซีน ย้ำสวมเฟซชิลด์อย่างเดียวไม่ป้องกัน
วันนี้ (10 มิ.ย.) นพ.อนุพงศ์ สุจริยากุล ผู้ทรงคุณวุฒิ กรมควบคุมโรค (คร.) กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า ขณะนี้ไม่มีผู้ป่วยติดเชื้อในประเทศเป็นวันที่ 16 แต่การ์ดอย่าตก เพราะอาจมีผู้ติดเชื้อแล้วแต่ไม่แสดงอาการอยู่ในชุมชนก็ได้ ระยะเวลาปลอดภัย คือ 2 เท่าของระยะฟักตัว ซึ่งระยะฟักตัวยังเป็น 14 วัน ระยะปลอดภัย คือ 28 วัน แต่ไม่ได้แปลว่า ระหว่างนี้เปิดกิจการไม่ได้ เราก็จะทยอยเปิดกิจการอย่างปลอดภัยเช่นนี้ อย่างไรก็ตาม หลายคนคงรอกิจการคลายล็อกในเฟส 4 ว่า เป็นกิจการอะไรบ้าง ซึ่งหลายกิจการ/กิจกรรมค่อนข้างเสี่ยงปานกลางถึงสูง ก็ต้องรอฟัง ศบค.ว่าจะมีอะไรบ้าง นอกจากนี้ วันที่ 1 ก.ค. จะมีการเปิดเทอม ถ้าเตรียมพร้อมป้องกันควบคุมโรคได้ดี โอกาสจะมีเด็กป่วยโควิด-19 ในโรงเรียนก็จะน้อยลงหรือไม่มีเลย
“รัฐบาลและ ศบค. สนับสนุนให้ประชาชนมีกิจการกิจกรรมต่างๆ ได้จนเกือบปกติ ขึ้นกับความเสี่ยงขณะนี้เป็นอย่างไร และกิจการนั้นมีความเสี่ยงประมาณไหน เชื่อว่า หลายคนอยากเที่ยวแล้ว ซึ่งมีข่าวว่าชายหาดเราสวยขึ้นทุกวัน เพราะธรรมชาติได้รับการเยียวยา หลังจากมีการหยุดกิจกรรมท่องเที่ยวชั่วคราว เมื่อการท่องเที่ยวในประเทศได้รับการสนับสนุนให้เปิดเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ก็จะได้ชื่นชมธรรมชาติที่สวยงาม แต่การ์ดต้องไม่ตก ยังต้องเข้มงวดใส่หน้ากากอนามัยเวลาออกนอกบ้าน โดยถือว่าหน้ากาก คือ ปัจจัยที่ 6 ต่อจากสมาร์ทโฟนที่เป็นปัจจัยที่ 5 รวมถึงพกพาแอลกอฮอล์เจล หากไปที่คนมาก ต้องคิดว่าเสี่ยงหรือไม่ เว้นระยะห่าง 1-2 เมตรได้หรือไม่ หากทำไม่ได้หลีกเลี่ยงได้หรือไม่ ทำแบบนี้ก็จะปลอดภัย” นพ.อนุพงศ์ กล่าว
นพ.อนุพงศ์ กล่าวว่า หากติดตามดูประเทศจีน พบว่า ไม่มีผู้ติดเชื้อในประเทศมานานพอสมควร มีแต่การนำเข้า แต่ประชาชนก็ยังใส่หน้ากากอนามัย ภาพเหล่านี้คือชีวิตวิถีใหม่ เชื่อว่า โควิดจะอยู่กับเรานานพอสมควร อาจจะ 1-2 ปี หรือจนกว่าจะมีวัคซีนประสิทธิภาพสูงฉีดให้ประชาชน ตอนนั้นการจะไม่ใส่หน้ากากก็ค่อยว่ากันอีกที แต่ตอนนี้ขอให้ปฏิบัติเข้มข้น เข้มงวด มีวินัยกับตัวเอง ซึ่งองค์การอนามัยโลกก็สนับสนุนให้ใส่ เพราะมีหลักฐานชัดว่าคนทั่วไปใส่หน้ากากผ้าก็ช่วยป้องกันการแพร่โรค แต่การใส่เฟซชิลด์อย่างเดียว ยังไม่มีการพิสูจน์ว่ามีประโยชน์ ดังนั้น ไม่แนะนำให้ใส่เฟซชิลด์อย่างเดียว แต่ควรสวมหน้ากากป้องกัน และอาจเสริมด้วยเฟซชิลด์ก็ได้