โดย...พญ.พจนา จิตตวัฒนรัตน์ ผู้อำนวยการศูนย์อายุรกรรมมะเร็งวัฒโนสถ โรงพยาบาลมะเร็งกรุงเทพ วัฒโนสถ
ในขณะนี้ทั้งประเทศไทยและทั่วโลกยังคงมีการแพร่ระบาดของCOVID-19 อยู่ การดูแลตัวเองให้ห่างไกลโรคจึงเป็นเรื่องสำคัญ ยิ่งในผู้ป่วยโรคมะเร็งจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องดูแลสุขภาพตัวเอง มีผู้ป่วยหลายคนสงสัยว่าตนเองมีความเสี่ยงมากกว่าคนทั่วไปหรือไม่ หากได้รับเชื้อCOVID-19 ควรมีวิธีการดูแลตัวเองและแนวทางการรักษาอย่างไร ดังนั้น การรู้เท่าทันเพื่อการรับมืออย่างถูกต้องจึงเป็นเรื่องที่ไม่ควรละเลย
ผู้ป่วยมะเร็งควรรู้เกี่ยวกับการดูแลตัวเองในช่วงCOVID-19นี้ โดยผู้ป่วยมะเร็งที่อยู่ในระหว่างการรักษาหรือให้เคมีบำบัด ควรไปพบแพทย์ตามนัดอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้การรักษาเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ทุกครั้งที่ออกจากบ้านต้องสวมหน้ากากอนามัยและพกเจลแอลกอฮอล์ติดตัวไว้ตลอดเวลา เลือกหน้ากากอนามัยคุณภาพดีได้มาตรฐาน ถ้าเป็นหน้ากากผ้าต้องเป็นผ้าที่สามารถป้องกันละอองฝอยในอากาศได้ไม่ควรอยู่ในสถานที่แออัดโดยไม่จำเป็นและต้องรักษาระยะห่าง (Social Distancing) กับคนรอบข้าง รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ มีสารอาหารครบ 5 หมู่ โดยเน้นโปรตีนเป็นหลัก ออกกำลังกายแบบพอเหมาะที่สามารถทำเองได้ที่บ้าน
ในกรณีที่ผู้ป่วยมะเร็งที่มีโรคประจำตัวเรื้อรังร่วมด้วย เช่น เบาหวาน อ้วน หัวใจ ตับ ไตเรื้อรัง ปอดและทางเดินหายใจ และภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่อง ซึ่งอยู่ในกลุ่มเสี่ยงสูงหากติดเชื้อ COVID-19อาจร้ายแรงและอันตรายถึงชีวิตได้ แพทย์จะพิจารณาและให้ยาเฉพาะโรคเป็นรายบุคคลไป
ในกรณีของผู้ป่วยมะเร็งปอด ควรใส่ใจดูแลสุขภาพตัวเอง เพื่อที่สร้างความแข็งแรงให้ปอดและร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นทานอาหารที่มีประโยชน์ ออกกำลังกายตามความเหมาะสม พักผ่อนให้เพียงพอ งดออกจากบ้านถ้าไม่จำเป็น เว้นแต่แพทย์นัดการติดตามอาการ ใส่หน้ากากอนามัย หมั่นรักษาความสะอาดอยู่เสมอStay Home Stay Healthy อยู่บ้านพร้อมกับสุขภาพกายใจที่แข็งแรง หากิจกรรมทำ ไม่ว่าจะเป็นออกกำลังกาย อ่านหนังสือ ฟังเพลง ทำงานบ้าน งานอดิเรกที่ชอบ เป็นต้น เพื่อให้เกิดความผ่อนคลาย ที่สำคัญรักษาจิตใจให้แจ่มใส ไม่เครียด เพื่อภูมิคุ้มกันจะได้ไม่ตก สร้างพลังบวกให้มีกำลังใจใช้ชีวิตในทุกๆ วัน เลือกรับข่าวสารในช่องทางที่น่าเชื่อถือ นำเสนอข้อมูลข้อเท็จจริงที่ถูกต้อง เพื่อจะได้ไม่ตื่นตระหนกและปฏิบัติตัวได้ถูกวิธีในทุกสถานการณ์
ช่วง COVID-19 ผู้ป่วยมะเร็งควรดูแลสุขภาพของตัวเองให้มากขึ้น หากมีข้อสงสัยควรขอคำแนะนำจากแพทย์เพื่อจะได้ดูแลตัวเองได้อย่างเหมาะสมในชีวิตประจำวัน