ชุมชนคุณธรรมนำหลักเศรษฐกิจพอเพียง ปรับใช้ในการดำรงชีวิตสู้วิกฤติโควิด-19

ชุมชนคุณธรรมนำหลักเศรษฐกิจพอเพียง ปรับใช้ในการดำรงชีวิตสู้วิกฤติโควิด-19

นายกฤษศญพงษ์ ศิริ ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวว่า สืบเนื่องมาจาก สำนักงานปลัดกระทรวงวัฒนธรรม สำรวจ ชุมชนคุณธรรมน้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงขับเคลื่อนด้วยพลังบวร ในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 พบว่า การรวมพลัง บวร สามารถเป็นที่พึ่งให้กับประชาชนในชุมชน ซึ่งเห็นชัดเจนว่า เจ้าอาวาส พระสงฆ์ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ให้การดูแลผู้ประสบภัยและผู้ได้รับผลกระทบจากโรคโควิด-19 มีทั้งการเปิดรับบริจาคจากผู้มีจิตศรัทธา และนำไปจัดทำถุงยังชีพ อาหารกล่อง ไปมอบให้ แก่ผู้เดือดร้อนในชุมชน พร้อมกันนี้ ยังมีการลงพื้นที่เยี่ยมให้กำลังใจถึงประตูบ้าน โดยถามไถ่สารทุกข์สุขดิบ ความเดือดร้อน ความต้องการของชาวบ้าน ว่า มีอะไรขาดเหลือหรือไม่ ดังนั้น การนำพลัง บวรไปช่วยเหลือชุมชน จึงสร้างแบบวิเคราะห์สถานการณ์ และคน ด้วยว่าควรช่วยเหลือเรื่องอะไรตามลำดับ ก่อนและ หลัง ได้อีกด้วย

ทั้งนี้ ยังพบด้วยว่า เกือบทุกชุมชนได้นำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ไปใช้ในการดำเนินชีวิตในช่วงโควิด-19 ได้ปลูกพืชผักสวนครัว สมุนไพร ผลไม้ที่ออกผลผลิตได้ไว เช่น กล้วย แตงโม ฟักทอง มะละกอ ไว้ในบ้าน รวมถึงในเขตชุมชน โรงเรียน วัด นอกจากนี้ ยังใช้วิธีการแบ่งปันซึ่งกันและกัน ทั้งในชุมชนเดียวกัน อีกทั้งยังได้มีการแลกเปลี่ยนข้ามชุมชน โดยไม่ได้มีการซื้อขาย หรือเห็นแก่กำไร คือ ต่างชุมชนได้มีการแลกเปลี่ยนสิ่งที่ในชุมชนหนึ่งมี และอีกชุมชนไม่มี เช่น นำผัก ผลไม้ ข้าว ไปแลกปลา อาหารทะเล ซึ่งทำให้เห็นว่าหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ของในหลวง รัชกาลที่ ๙ เป็นแก่นแท้ที่ทำให้เกิดภูมิคุ้มกันอย่างดี เกิดสังคมเอื้ออาทร ทำให้ชาวบ้านมีวิถีชีวิตที่พอดี พอเพียง ความมีน้ำใจเอื้อเฟื้อ เกื้อกูลกัน

“อีกมิติหนึ่งที่พบ คือ สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัด (สวจ.) ได้เข้ามาช่วยเกษตรกรที่ไม่มีเงินจ้างแรงงาน ด้วยวิธีการให้เจ้าหน้าที่ สวจ. มาช่วยเก็บผลิตผล และผันงบไปช่วยรับซื้อผลผลิตไปแจกจ่ายชาวบ้าน ผลผลิตเหล่านี้ก็นำไปมอบให้ชุมชนอีกชุมชนหนึ่ง เพื่อให้มีผัก ผลไม้ ได้รับประทาน ซึ่งเจ้าของสวนไม่ต้องปล่อยให้ผลผลิตเน่าเสียคาสวน” ปลัด วธ. กล่าว