xs
xsm
sm
md
lg

การันตี เรียนจบมีงานทำ! เจาะหลักสูตรปริญญาตรี TNI ที่ตลาดงานยุคใหม่พร้อมอ้าแขนรับ

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



พร้อมทำให้ผู้เรียนก้าวเดินอย่างมั่นใจในโลกยุคดิจิทัล แถมการันตี เรียนจบ มีงานทำแน่นอน!

เรียนปริญญาตรีมา 4-5 ปี แต่จบออกมาแล้วไม่มีงานทำ นับเป็นคำที่น่าปวดหัวใจ ซึ่งนี่ก็ไม่ไกลจากความเป็นจริงมากนัก เนื่องจากในแต่ละปี สถิตินักศึกษาว่างงานดูคล้ายจะยิ่งสูงขึ้นทุกวัน และนั่นก็คือสิ่งที่คณะเทคโนโลยีสารสนเทศ สถาบันเทคโนโลยีไทย-ญี่ปุ่น เล็งเห็นและให้ความสำคัญ จึงได้เปิดหลักสูตรที่พูดได้ว่า “จบไป ไม่มีเคว้ง” เพราะทั้ง 5 หลักสูตร ล้วนตอบโจทย์ความต้องการของตลาดในยุค Digital Transformation...

เจาะลึกทุกหลักสูตร ตอบโจทย์ยุค Digital Transformation

ต้องยอมรับว่า ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา สื่อดิจิทัลได้เข้ามามีบทบาทและอิทธิพลต่อไลฟ์สไตล์ของคนทั่วไป กล่าวได้ว่าตั้งแต่ตื่นนอนไปจนถึงเข้านอน สื่อดิจิทัลได้เข้ามาผูกพันกับวิถีชีวิตของผู้คนตลอดเวลา คณะเทคโนโลยีสารสนเทศ สถาบันเทคโนโลยีไทย-ญี่ปุ่น เล็งเห็นความสำคัญของสถานการณ์ดังกล่าวนี้ จึงได้มีการเปิดสอนหลักสูตรให้สอดรับกับยุคสมัย เพื่อสร้างบัณฑิตที่ตอบโจทย์ความต้องการตลาดงานยุคใหม่


รศ.ดร.รัตติกร วรากูลศิริพันธุ์ คณบดีคณะเทคโนโลยีสารสนเทศ สถาบันเทคโนโลยีไทย-ญี่ปุ่น เล่าให้ฟังว่า ในระดับปริญญาตรี ทางคณะฯ มีหลักสูตรปกติ 4 สาขา ที่มีการเรียนการสอนเป็นภาษาไทย ประกอบไปด้วย สาขาวิชาเทคโนโลยีสารสนเทศ (IT) สาขาวิชาเทคโนโลยีมัลติมีเดีย (MT) สาขาวิชาเทคโนโลยีสารสนเทศทางธุรกิจ (BI) และสาขาวิชาเทคโนโลยีดิจิทัลทางสื่อสารมวลชน (DC) ซึ่งวิชาใน 4 สาขานี้... มีวิชาพื้นฐานที่จะได้เรียนเหมือนกัน เช่น Programming, Web Design และ Database และจะได้เรียนวิชาเฉพาะสาขามากขึ้น

“ขณะที่จุดเด่นของสาขาวิชาเทคโนโลยีสารสนเทศ (IT) คือนักศึกษาจะได้เรียนเกี่ยวกับระบบ Network เครือข่ายสื่อสาร Crown Computing, IoT ตลอดจน Mobile Application ทั้งนี้ เพราะเราเล็งเห็นว่า ทุกสถานประกอบการจำเป็นต้องใช้เทคโนโลยีด้านสารสนเทศในการดำเนินกิจกรรมต่าง ๆ โดยการเรียนในสาขานี้ เน้นให้ผู้เรียนสามารถทำงานด้าน IT ทั้งในบทบาทของผู้พัฒนา และผู้ใช้งานระบบ ผ่านการเรียนที่เน้นการปฏิบัติจริง และมีการส่งนักศึกษาให้เข้าไปทำงานในสถานประกอบการจริง”

รศ.ดร.รัตติกร วรากูลศิริพันธุ์ แจกแจงต่อไปว่า สำหรับจุดเด่นของสาขาวิชาเทคโนโลยีมัลติมีเดีย (MT) จะมีสอนในด้านการทำ Animation, Graphic Design, Mobile Application รวมถึง Web Design โดยทั้งหมดนี้จะเน้นเรียนรู้ทฤษฎีควบคู่กับการลงมือทำจริง ๆ จนสามารถสร้างสรรค์ผลงานคุณภาพด้วยเทคโนโลยีทันสมัย ซึ่งที่ผ่านมา ผลงานของนักศึกษาในสาขาวิชานี้ของทางสถาบัน ได้รับการยอมรับในแง่คุณภาพจากหน่วยงานภายนอกเป็นจำนวนมาก

“สำหรับสาขาวิชาเทคโนโลยีสารสนเทศทางธุรกิจ (BI) เป็นสาขาที่ตอบสนองทางธุรกิจ คือเรามีสอนทางด้านการบริหารทรัพยากรองค์กรเกี่ยวกับ Software หรือที่เรียกว่า Enterprise Resource Planning (ERP) รวมทั้งมีการสอนวิธีใช้โปรแกรมมาตรฐานที่ใช้ในทางองค์การธุรกิจ เช่น System Applications Products (SAP), Oracle และ Google Apps นอกจากนี้ก็ยังมีการสอนเรื่อง E-Marketing และ E-Logistics เสริมเข้าไปด้วย”

ส่วนสาขาวิชาเทคโนโลยีดิจิทัลทางสื่อสารมวลชน (DC) นั้นจะเหมาะกับคนที่ชอบใช้ความคิดสร้างสรรค์ในการผลิตสื่อ การใช้เทคโนโลยีดิจิทัลในการออกแบบ Content การเขียน Storyboard ซึ่งทั้งหมด เน้นการเรียนการสอน ทั้งบรรยายและการปฏิบัติจริงตามหลัก MONOZUKURI ที่ช่วยให้นักศึกษาสามารถวิเคราะห์ ออกแบบ ผลิต และประเมินผลชิ้นงานได้จริง อีกทั้งยังมีโอกาสเรียนรู้จากผู้เชี่ยวชาญในสถานประกอบการ โดยเฉพาะจากประเทศญี่ปุ่น เนื่องด้วยประเทศญี่ปุ่นถือเป็นต้นแบบทางด้านอุตสาหกรรมสื่อสารมวลชนที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล

ปฏิเสธไม่ได้ว่า ทุกวันนี้ มีการใช้ข้อมูลข่าวสารจำนวนมหาศาล โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในสังคมแห่งสื่อโซเชียลทั้งในและต่างประเทศ ด้วยเหตุนี้ ทางคณะเทคโนโลยีสารสนเทศ สถาบันเทคโนโลยีไทย-ญี่ปุ่น จึงได้เปิดหลักสูตรนานาชาติเพื่อสร้างบัณฑิตผู้เชี่ยวชาญในด้านนี้ โดยเป็นหลักสูตรที่มีชื่อว่า Data Science and Analytics หรือ DSA เพราะเล็งเห็นว่า ความต้องการและความสำคัญในงานสายวิเคราะห์ข้อมูล มีเพิ่มมากขึ้น จนถึงขนาดมีคำกล่าวว่า “Data is the new oil” อาชีพในอนาคตสำหรับคนรุ่นใหม่ และเหนืออื่นใด สาขาวิชานี้จะเพิ่มความได้เปรียบให้กับนักศึกษาด้วยการได้ภาษาญี่ปุ่นและอังกฤษติดตัวไปด้วย

“ปัจจุบัน Data Analytics Specialist เป็นทรัพยากรที่มีคุณค่ามากสำหรับองค์กร เราสอนให้นักศึกษาค้นหาข้อมูล (Data Mining) เราสอนนักศึกษาให้แยกแยะข้อมูล (Data Classification) เราสอนให้นักศึกษาวิเคราะห์ข้อมูล หรือเรียกว่า Data Analytics เมื่อวิเคราะห์แล้วก็ต้องมีการแสดงผลด้วยการทำ Data Visualization ในศาสตร์นี้เรามีการสอนเทคนิคการใช้ซอฟต์แวร์มาตรฐานที่มีการใช้ในองค์กรของการวิเคราะห์ข้อมูล เช่น การสอนภาษา R ซึ่งเป็นการวิเคราะห์ทางด้านสถิติ เรามีสอน โปรแกรม Rapid Miner, Python และ Excel ขั้นสูง รวมถึงการใช้ซอฟต์แวร์ที่มีราคาแพงมากที่เรียกว่า Tableau

“จริง ๆ ทั้ง 5 หลักสูตรที่ผมกล่าวมานั้น มันตอบโจทย์สังคมยุคปัจจุบันอย่างยิ่งเลยครับ อย่างประเทศไทยเราก็ได้เข้าสู่ Digital Transformation หรือที่เรียกว่า ไทยแลนด์ 4.0 ซึ่งเบื้องหลังจะต้องมีบุคลากรเชี่ยวชาญด้านไอทีหรือซอฟต์แวร์ ที่คอยสนับสนุนทุกหน่วยงาน ฉะนั้น ทุกสาขาที่ผมได้กล่าวถึงมีประโยชน์ในภาคอุตสาหกรรมแน่นอนครับ” รศ.ดร.รัตติกร วรากูลศิริพันธุ์ กล่าวย้ำด้วยความมั่นใจ

การันตี เรียนจบมีงานทำ 100 เปอร์เซ็นต์!

ในแต่ละปี พ.ศ. ช่วงใกล้ปิดการศึกษา จะมีรายงานข่าวเชิงสถิติออกมาอยู่เรื่อย ๆ ว่า นักศึกษาที่จบไปในแต่ละปี มีโอกาสที่จะ “ว่างงาน” จำนวนเท่านั้นเท่านี้ เช่นเมื่อปลายปีที่ผ่านมา มีตัวเลขคาดการณ์ว่า นักศึกษาที่จบไปจะไม่มีงานทำเป็นจำนวนสูงถึงกว่า 5 แสนคน

แต่...นักศึกษาที่มาเรียนในคณะเทคโนโลยีสารสนเทศ สถาบันเทคโนโลยีไทย-ญี่ปุ่น สามารถตัดความกังวลในข้อนี้ออกไปได้เลย เพราะสโลแกนของที่นี่ คือ นักศึกษาที่จบไป จะได้งานทำ 100%

“ทุก ๆ ปี เราจะมีการจัดงาน TNI Job Fair ทุกต้นเดือนมกราคมครับ” รศ.ดร.รัตติกร วรากูลศิริพันธุ์ กล่าวชี้แจง

“บริษัทที่มา Recruit นักศึกษาของเรา ด้านสายไอทีหรือซอฟต์แวร์ ตลอดจนด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ มีเป็นจำนวนมาก และตำแหน่งที่เขาต้องการ มีมากกว่านักศึกษาที่จบ นี่ก็เป็นการการันตีว่า นักศึกษาเราจะมีงานรองรับ 100%”

เรียนดี มีทุน เรียนฟรี พร้อม Pocket Money ดีต่อใจ






สำหรับน้อง ๆ ที่สนใจเข้าศึกษาต่อในสถาบันแห่งนี้ หลายคนอาจจะกังวลเกี่ยวกับความพร้อมในเรื่องทุนการศึกษา ซึ่งตรงนี้ ทาง รศ.ดร.รัตติกร วรากูลศิริพันธุ์ ได้บอกข่าวดีว่า ณ ตอนนี้ ไม่ว่าจะเป็นหลักสูตรปกติ หรือหลักสูตรนานาชาติ ต่างก็ได้รับอนุมัติให้สามารถกู้ยืมจากกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) ของรัฐบาลได้

“แต่เหนืออื่นใด คือทางสถาบันของเรา ก็มีกองทุนสนับสนุนการศึกษาของเราเอง ที่มอบให้กับนักศึกษาที่สอบเข้ามาได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง นักศึกษาที่มีคะแนนสูงๆ สามารถได้รับทุน 4 ประเภท ซึ่งเป็นทุนของสถาบันฯ ประกอบไปด้วย

- ทุนประเภทที่ 1. ยกเว้นค่าเล่าเรียน 100% และมีเงินให้ใช้ที่เรียกว่า Pocket Money เดือนละ 3,000 บาท
- ทุนประเภทที่ 2 ยกเว้นค่าเล่าเรียน 100% แต่ไม่มีเงิน Pocket Money
- ทุนประเภทที่ 3 ยกเว้นค่าเล่าเรียน 50%
- ทุนประเภทที่ 4 ยกเว้นค่าเล่าเรียน 25%

ทั้งหมดนี้จะช่วยลดภาระเรื่องค่าเล่าเรียนให้กับนักศึกษาได้

“อย่างไรก็ดี ก็ยังมีทุนอื่น ๆ ด้วยนะครับ เช่น ทุนเรียนดี สอบได้ที่ 1 ของชั้น ก็จะให้ทุนแบบเป็นเงินก้อน 30,000 บาท และยังมีทุนสำหรับนักศึกษาที่ขาดแคลนทุนทรัพย์จริง ๆ และทุนเพื่อการศึกษาอื่น ๆ อีกหลากหลายรูปแบบ

“สุดท้าย อีกสิ่งหนึ่งซึ่งเป็นจุดเด่นของเรา คือโครงการแลกเปลี่ยน นักศึกษาที่เข้ามาเรียนในสถาบันของเรา จะมีโอกาสไปศึกษาแลกเปลี่ยนที่ต่างประเทศ เพราะว่าเรามีพันธมิตรที่เราลงนามความร่วมมือทางวิชาการ ทั้งบริษัทอุตสาหกรรมธุรกิจในญี่ปุ่น และมหาวิทยาลัยในญี่ปุ่นเป็นจำนวนมาก ฉะนั้น นักศึกษาก็จะมีโอกาสได้ไปโครงการแลกเปลี่ยน พร้อมกับเงินสนับสนุน 100% หรืออาจจะมีให้นักศึกษาออกค่าใช้จ่ายเองบางส่วน แต่ไม่มากนัก”




ทั้งหมดนี้ ก็เพื่อให้นักศึกษารู้สึกสบายใจ คลายกังวลกับเรื่องปัจจัยในการดำเนินชีวิตขณะเป็นนักศึกษา เพื่อที่ว่าจะได้ทุ่มเทสมาธิและความตั้งใจไปให้กับการเรียนรู้พัฒนาฝึกฝนตนเองอย่างจริงจัง

สนใจเข้าศึกษา ต้องสมัครแบบไหน? เมื่อไหร่? ยังไง?

รศ.ดร.รัตติกร วรากูลศิริพันธุ์ กล่าวถึงวิธีการรับสมัครนักศึกษาเข้าศึกษายังสถาบันแห่งนี้ว่ามีช่องทางในการรับสมัคร 4 ช่องทาง ประกอบด้วย

1. ระบบโควตา โดยทางสถาบันจะมีจดหมายไปตามโรงเรียนต่าง ๆ ให้ส่งนักศึกษาที่เรียนดีก็คือ GPA 3 ขึ้นไป กลุ่มนี้จะสอบสัมภาษณ์อย่างเดียว
2. การรับตรง เพื่อสอบชิงทุนของสถาบันฯ ด้วย
3. ใช้คะแนน GAT-PAT มายื่นจะใช้วิธีการคัดเลือกด้วยการสัมภาษณ์
4. การรับสมัครโดยการยื่น Portfolio ที่แสดงความสามารถเฉพาะด้านของผู้สมัคร จะใช้วิธีการคัดเลือกด้วยการสัมภาษณ์

“ส่วนหลักสูตรนานาชาติ เราก็จะยังคงเปิดรับสมัครอยู่ เพราะว่าหลักสูตรนี้จะมีการเปิดเทอมช้ากว่าหลักสูตรปกตินิดหนึ่ง หลักสูตรปกติ เราจะเปิดในเดือนมิถุนายน ส่วนหลักสูตรนานาชาติจะเปิดเดือนกรกฎาคม เหตุผลที่เปิดเดือนกรกฎาคมเนื่องจากจะมีนักเรียนที่เรียนโรงเรียนนานาชาติในประเทศไทยที่จะมีการสอบปลายภาคในเดือนมิถุนายน ซึ่งเราก็จะรองรับเด็กในสายนี้ด้วยเช่นกัน”

สอบถามรายละเอียดการสมัครเรียนได้ที่ :
ศูนย์รับสมัครนักศึกษา สถาบันเทคโนโลยีไทย-ญี่ปุ่น (TNI)
1771/1 ถ.พัฒนาการ แขวง/เขตสวนหลวง กรุงเทพฯ 10250
Tel: 02-763-2601-5
www.tni.ac.th
https://www.facebook.com/ThaiNichi/
https://www.facebook.com/TNIadmissioncenter/
หรือเพจ Facebook คณะเทคโนโลยีสารสนเทศ สถาบันเทคโนโลยีไทย-ญี่ปุ่น https://www.facebook.com/TNIfacultyIT/


























(พื้นที่ประชาสัมพันธ์)


กำลังโหลดความคิดเห็น