ผู้ป่วยโควิดรายใหม่ลดต่ำสุดเหลือ 3 ราย ไม่มีเสียชีวิตเพิ่ม ศบค.แจงค้นหาเชิงรุกใน จ.ยะลา 311 ราย บวก 40 ราย อัตราสูงถึง 30% ถือว่ามากผิดปกติ ซึ่งอยู่ที่ 2-3% เผยได้แยกกักแล้ว ขอเก็บตัวอย่างตรวจใหม่อีกรอบ เพื่อความถูกต้อง
วันนี้ (3 พ.ค.) นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน ศนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) แถลงข่าวประจำวัน ว่า วันนี้มีผู้ป่วยโควิด-19 รายใหม่จำนวน 3 ราย ไม่มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม กลับบ้านเพิ่ม 7 ราย โดยมีผู้ป่วยยืนยันสะสม 2,969 ราย กลับบ้านรวม 2,739 ราย เสียชีวิตรวม 54 ราย ยังรักษาใน รพ. 176 ราย ทั้งนี้ ผู้ป่วยรายใหม่ 3 ราย มาจาก 1. สัมผัสผู้ป่วยรายก่อนหน้า 2 ราย จาก กทม. เป็นชายวัย 45 ปี และหญิงวัย 51 ปี และ 2. สถานที่กักตัวของรัฐ 1 ราย เป็นชายวัย 24 ปี กลับมาจากมาเลเซีย เข้ามาวันที่ 18 เม.ย.
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า สำหรับมีประเด็นที่สื่อมีการรายงานว่า อาจมีผู้ป่วยยืนยันถึง 30-40 ราย ใน จ.ยะลา โดยมีภาพรถแอมบูแลนซ์เคลื่อนย้าย และน่าจะมีผู้ป่วยเพิ่มมากขึ้นวันนี้ ศบค.ได้ไปทวนสอบข้อเท็จจริง การรายงานในเบื้องต้น คือ เป็นการค้นหาผู้ป่วยเชิงรุกใน 8 อำเภอ จ.ยะลา ยอดตัวเลขทางการที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) ยะลา รายงาน คือ 311 คน ผลตรวจเบื้องต้นลบ 271 คน มีผลยืนยันเบื้องต้น 40 คน ถือว่ามากถึง 30.77% ซึ่งมากเกินผิดปกติ จากปกติที่ลงสแกนพื้นที่จะอยู่ที่ 2-3% หรือไม่เกิน 4-5% จึงต้องนำมาวิเคราะห์
“ทั้งในระดับผู้ปฏิบัติในพื้นที่ การควบคุมโรค ในระดับจังหวัด อธิบดีกรมควบคุมโรค ปลัดกระทรวงสาธารณสุข รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข จึงมีข้อสรุปให้มีการทบทวนข้อมูลตรงนี้อีกครั้ง ซึ่งการพบกลุ่มใหญ่เป็นเรื่องที่ดีในการค้นหาเชิงรุก แต่ตัวเลขขึ้นมาถึง 2 หลัก เป็น 40 ราย ต้องขอทวนสอบอีก แม้มีความสำคัญ แต่ความถูกต้องต้องมาก่อน โดยวันนี้จะเข้าไปเก็บตัวอย่างใหม่อีกรอบ โดยคนที่มีผลตรวจยืนยันจะถูกแยกกัก นำไปยังพื้นที่ที่มีความปลอดภัยและตรวจซ้ำ และแพทย์จะเข้าไปดูแลจะได้เข้าไปซักประวัติสอบสวนโรค ขยายผลขึ้นไปอีกจะได้ตัวเลขเพิ่มขึ้นมาอย่างไร กระบวนการต่างๆ ทางการแพทย์เราจะพยายามอย่างที่สุด เพื่อได้ชุดข้อมูลที่ถูกต้องนำมารายงาน” นพ.ทวีศิลป์ กล่าวและว่า ยืนยันว่า 40 คน ไม่มีการปกปิด จะเสนอตามความเป็นจริงมากที่สุด
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า จังหวัดที่มีรายงานในผู้ป่วยในช่วง 28 วัน มี 36 จังหวัด ส่วนไม่มีรายงานช่วง 28 วัน ขยายเพิ่มเป็น 32 จังหวัด โดยมีเพิ่มขึ้น 3 จังหวัด ได้แก่ ประจวบคีรีขันธ์ สกลนคร และ สุรินทร์ เพิ่มเติม ทั้งนี้ ปัจจัยเสี่ยงในการติดเชื้ออันดับต้นๆ เช่น สัมผัสผู้ป่วยยืนยัน กลับมาจากต่างประเทศ อยู่ในสถานที่กักตัวของรัฐ เรามีมาตรการป้องกัน แต่การไปสถานที่ชุมชน อาชีพเสี่ยงสถานที่แออัด แสดงถึงชุดพฤติกรรม มีความสำคัญสูงที่ต้องปรับไปสู่พฤติกรรมใหม่ เพื่อเข้าได้กับสถานการณ์ผ่อนปรน การไปสถานที่ที่เปิด เริ่มมีคนแออัด อาจเป็นเหตุมีการติดเชื้อเพิ่มขึ้นได้
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า องค์การอนามัยโลก (WHO) เตือนทั่วโลกต้องคลายล็อกอย่างช้าๆ เตรียมรับโควิด-19 พุ่งอีกรอบหนึ่ง ซึ่งเตือนโดย ดร.ไมค์ ไรอัน ผู้เชี่ยวชาญด้านภาวะฉุกเฉินของ WHO ที่ระบุว่า จะต้องเฝ้าระวังการติดเชื้อที่จะพุ่งขึ้นมาใหม่ โดยเฉพาะการรับมือการแพร่ระบาดในสถานที่ที่มีจำเพาะ เช่น เรือนจำ ที่พักแรงงานต่างชาติ ต้องให้ชุมชนปฏิบัติเว้นระยะห่างต่อไป
