ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เผย เตรียมเสนอที่ประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อ กทม.เพื่อผ่อนปรนมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดกิจกรรมบางประเภท บางกิจการเปิดให้บริการได้โดยมีมาตรการควบคุม ตามที่กำหนด ยกเลิกด่านตรวจคัดกรองโควิด-19 สองทุ่มคืนนี้เป็นต้นไป
วันนี้ (28 เม.ย.) พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ร่วมการประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) กรุงเทพมหานคร ครั้งที่ 33/2563 ซึ่งมี พล.ต.ท.โสภณ พิสุทธิวงษ์ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) กรุงเทพมหานคร เป็นประธานการประชุม โดยมี คณะผู้บริหารกรุงเทพมหานคร คณะโฆษกของกรุงเทพมหานคร ผู้แทนสำนัก ผู้แทนกลุ่มเขต และผู้แทนส่วนราชการในสังกัดกรุงเทพมหานครที่เกี่ยวข้อง ร่วมประชุม ณ ห้องรัตนโกสินทร์ ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร (เสาชิงช้า)
สำหรับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) วันนี้ (28 เม.ย. 63) ในพื้นที่กรุงเทพมหานครมียอดผู้ป่วยติดเชื้อเพิ่มขึ้น จำนวน 3 คน ยอดผู้ป่วยสะสม รวมจำนวน 1,484 คน ผู้ป่วยรักษาหายสามารถกลับบ้านได้เพิ่มเติม จำนวน 2 คน ยอดรวมผู้ป่วยรักษาหาย จำนวน 1,354 คน ผู้ป่วยอยู่ระหว่างการรักษา 106 คน มีผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้น 1 คน รวมผู้เสียชีวิตทั้งสิ้น 24 คน ในส่วนผลการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ประจำด่านคัดกรองการเดินทางเข้าสู่กรุงเทพมหานคร เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ซึ่งเดิมมีการจัดตั้งด่านคัดกรองฯ ทั้งสิ้น 13 ด่าน ปัจจุบันลดจำนวนลงเหลือ 7 ด่าน มีผลการตรวจคัดกรองฯ ตั้งแต่วันที่ 26 มี.ค.- 27 เม.ย. 63 ดังนี้ เรียกตรวจยานพาหนะ รวมทั้งสิ้น 279,747 คัน ตรวจคัดกรองบุคคล รวมทั้งสิ้น 588,452 คน พบบุคคลเข้าข่ายเป็นกลุ่มเสี่ยง รวมทั้งสิ้น 70 คน
ทั้งนี้ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้แจ้งต่อที่ประชุม ว่า เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดโรคโควิด-19 เป็นไปในทางที่ดีขึ้น ประกอบกับกรุงเทพมหานครเตรียมเสนอที่ประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อกรุงเทพมหานคร เพื่อผ่อนปรนมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดกิจกรรมบางประเภท โดยสถานประกอบกิจการบางประเภทจะสามารถเปิดให้บริการประชาชนได้ แต่ต้องดำเนินมาตรการป้องกันและควบคุมตามที่คณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อกรุงเทพมหานครกำหนด ซึ่งจำเป็นต้องจัดสรรกำลังพลตำรวจแต่ละท้องที่ตรวจติดตามการปฏิบัติของสถานประกอบกิจการดังกล่าวอย่างทั่วถึง จึงจำเป็นต้องยกเลิกด่านตรวจคัดกรองโควิด-19 นอกจากนี้ กำลังพลบางส่วนจะถูกจัดสรรไปปฏิบัติภารกิจการตั้งด่านควบคุมการปฏิบัติตามมาตรการห้ามออกนอกเคหสถาน ตาม พ.ร.ก.สถานการณ์ฉุกเฉินฯ รวมถึงปฏิบัติหน้าที่อำนวยความสะดวก ดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ตลอดจนดูแลความเรียบร้อยการจัดระเบียบประชาชนในการรับ-แจกสิ่งของยังชีพด้วย