ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ระบุ พื้นที่กรุงเทพมหานครไม่มียอดผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่ พร้อมหารือประเมินผลการตั้งด่านคัดกรองทั้ง 7 ด่าน ว่า ควรดำเนินการต่อหรือยกเลิก กำชับให้ทุกสำนักงานเขตจัดชุดป้องกันให้เจ้าหน้าที่ที่ต้องปฏิบัติงานเก็บขนมูลฝอย ได้สวมใส่ทุกคน
วันนี้ (27 เม.ย.) พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ร่วมการประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) กรุงเทพมหานคร ครั้งที่ 32/2563 ซึ่งมี พล.ต.ท.โสภณ พิสุทธิวงษ์ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) กรุงเทพมหานคร เป็นประธานการประชุม โดยมี นางศิลปสวย ระวีแสงสูรย์ ปลัดกรุงเทพมหานคร ในฐานะรองผู้อำนวยการศูนย์ฯ พร้อมด้วย คณะผู้บริหารกรุงเทพมหานคร คณะโฆษกของกรุงเทพมหานคร ผู้แทนสำนัก ผู้แทนกลุ่มเขต และผู้แทนส่วนราชการในสังกัดกรุงเทพมหานครที่เกี่ยวข้อง ร่วมประชุม ณ ห้องรัตนโกสินทร์ ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร (เสาชิงช้า)
ที่ประชุมได้รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) โดยวันนี้ (27 เม.ย. 63) ในพื้นที่กรุงเทพมหานครไม่มียอดผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่ ยอดผู้ป่วยสะสมมีจำนวนรวม 1,481 คน ผู้ป่วยรักษาหายจำนวนรวม 1,352 คน ผู้ป่วยอยู่ระหว่างการรักษา 125 คน ไม่มีผู้เสียชีวิตเพิ่มเติม รวมผู้เสียชีวิตสะสมทั้งสิ้น 23 ราย ตามที่มีการขยายเวลาประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินต่อไปจนถึงวันที่ 31 พ.ค. 63 นั้น กรุงเทพมหานครจะหารือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อพิจารณาผ่อนปรนมาตรการควบคุมและป้องกันการแพร่ระบาดโรคโควิด-19 ตามนโยบายของรัฐบาล รวมทั้งให้หน่วยงานประเมินผลการตั้งด่านคัดกรองทั้ง 7 ด่าน ว่า ควรดำเนินการต่อหรือยกเลิก ในส่วนของการดูแลนักท่องเที่ยวที่ตกค้างอยู่ในกรุงเทพมหานครไม่สามารถเดินทางกลับประเทศได้นั้น คณะทำงานด้านการต่างประเทศจะประชุมร่วมกับกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองเกี่ยวกับแนวทางการให้ความช่วยเหลือ และจะนำเสนอในที่ประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) กรุงเทพมหานคร อีกครั้ง
ที่ประชุมได้กำชับให้ทุกสำนักงานเขตจัดชุดป้องกันให้เจ้าหน้าที่ที่ต้องปฏิบัติงานเก็บขนมูลฝอย หรือสิ่งปฏิกูลได้สวมใส่ทุกคน โดยชุดที่เจ้าหน้าที่ได้รับในขณะนี้บางส่วนเป็นชุดที่หน่วยงานภาคเอกชนและประชาชนผู้มีจิตศรัทธามอบให้ และสำนักสิ่งแวดล้อมอยู่ระหว่างการจัดซื้อชุดป้องกันเพิ่มเติมซึ่งเป็นชุดที่สามารถทำความสะอาดและใช้ซ้ำได้ อีกกว่า 20,000 ชุด เพื่อส่งให้ต่อให้ผู้ปฏิบัติงานนำไปใช้ต่อไป
