อธิบดีกรมการแพทย์ แจงไทยไร้ผู้ป่วยโควิดดับเพิ่ม 3 วันติด มาจากคนไข้ใหม่น้อยลง ทำคนมีอาการรุนแรงน้อยตามไปด้วย แพทย์รู้จักโรคมากขึ้น รักษาได้ดีขึ้น พบถอดท่อช่วยหายใจได้ราว 80-90% พ่วงการให้ยาเร็วทำให้อาการรุนแรงลดลง เผย กทม.ยังมีอาการรุนแรงราว 30 กว่าราย
วันนี้ (20 เม.ย.) นพ.สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวถึงกรณีประเทศไทยไม่มีผู้ป่วยโควิด-19 เสียชีวิตติดต่อกันเป็นวันที่ 3 แล้ว ว่า เรื่องนี้เป็นผลมาจากหลายปัจจัย อย่างแรกตรงไปตรงมา คือ ผู้ป่วยรายใหม่น้อยลง ทำให้จำนวนคนไข้หนักลดลงด้วย สองเพราะเรารู้จักโรคมากขึ้นเรื่อยๆ แพทย์รู้จักธรรมชาติของโรคมากขึ้น ส่วนเรื่องการปรับการให้ยารักษาผู้ป่วยใหม่โดยให้ยาเร็วขึ้น ก็อาจจะเป็นไปได้ เพราะเพิ่งปรับคำแนะนำในการให้ยาใหม่ เมื่อวันที่ 8 เม.ย.ที่ผ่านมา ทำให้คนไข้แทนที่อาการจะรุนแรงมากก็รุนแรงน้อยลง
เมื่อถามถึงจำนวนคนไข้อาการรุนแรงตอนนี้เหลือมากน้อยแค่ไหน นพ.สมศักดิ์ กล่าวว่า หากเป็นเฉพาะใน กทม. มีคนไข้ที่ใส่ท่อช่วยหายใจและอยู่ใน ไอ.ซี.ยู. ประมาณ 20 คน ส่วนคนไข้อาการหนักที่มีปอดบวมรุนแรง ซึ่งมีทั้งใส่ท่อและไม่ใส่ท่อช่วยหายใจ เฉพาะใน กทม. มีประมาณ 30 กว่าราย
ถามต่อว่าแนวโน้มการรักษาผู้ป่วยอาการรุนแรงดีขึ้นหรือไม่อย่างไร นพ.สมศักดิ์ กล่าวว่า ขณะนี้เราสามารถถอดท่อช่วยหายใจได้เยอะมาก อย่างตอนแรกก็กังวลเพราะเมื่อใส่ท่อแล้วการถอดก็ยาก แต่ปรากฏว่า หลังๆ คนไข้สามารถถอดท่อช่วยหายใจได้มากขึ้นเรื่อยๆ อย่างแรกๆ การถอดท่อช่วยหายใจได้อาจจะแค่ครึ่งๆ ซึ่งช่วงแรกคนไข้ยังน้อยด้วย แต่ช่วงหลังมานี้คิดว่าน่าจะเกือบ 80-90% ที่สามารถถอดได้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผู้ป่วยโควิด-19 สะสมของไทย วันที่ 20 เม.ย. อยู่ที่ 2,792 ราย หายกลับบ้านรวม 1,999 ราย ยังรักษาใน รพ. 746 ราย เสียชีวิตรวม 47 ราย
