ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร สั่งกำชับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง กวดขันร้านอาหาร สถานประกอบการ ให้ดำเนินการตามประกาศกรุงเทพมหานคร เรื่อง สั่งปิดสถานที่เป็นการชั่วคราวฉบับที่ 5 อย่างเคร่งครัดและต่อเนื่อง เพื่อลดการแพร่กระจายของเชื้อไวรัสโควิด-19
เมื่อวันที่ 8 เม.ย. เวลา 13.30 น. พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานการประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) กรุงเทพมหานคร ครั้งที่ 19/2563 โดยมี พล.ต.ท.โสภณ พิสุทธิวงษ์ นายสกลธี ภัททิยกุล รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พร้อมด้วย คณะผู้บริหารกรุงเทพมหานคร คณะโฆษกของกรุงเทพมหานคร ผู้แทนสำนัก ผู้แทนกลุ่มเขต และผู้แทนส่วนราชการในสังกัดกรุงเทพมหานครที่เกี่ยวข้อง ร่วมประชุม ณ ห้องรัตนโกสินทร์ ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร (เสาชิงช้า)
ในที่ประชุมได้รายงานผลการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่กรุงเทพมหานครประจำด่านตรวจคัดกรองโควิด-19 จำนวน 13 จุด บริเวณพื้นที่รอยต่อจังหวัดใกล้เคียง ประจำวันที่ 7 เม.ย. 63 ระหว่างเวลา 06.00-20.00 น. ว่า ดำเนินการตรวจยานพาหนะ จำนวน 9,453 คัน ตรวจวัดไข้ประชาชน จำนวน 24,000 คน พบประชาชนมีไข้ หรืออุณหภูมิเกิน 37.5 องศา จำนวน 1 คน ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 26 มี.ค.- 7 เม.ย. 63 ด่านคัดกรองฯ ดำเนินการตรวจยานพาหนะ รวม 99,843 คัน ตรวจวัดไข้ประชาชน จำนวน 223,329 คน พบประชาชนมีไข้หรืออุณหภูมิเกิน 37.5 องศา รวมจำนวน 58 คน ซึ่งได้ส่งไปตรวจที่โรงพยาบาลในสังกัด พร้อมทั้งลงทะเบียนและตรวจสอบประวัติเพื่อติดตามผลอย่างใกล้ชิด สำหรับความคืบหน้าการผลิตหน้ากากอนามัยผ้า (ณ วันที่ 8 เม.ย. 63) กรุงเทพมหานครสามารถผลิตหน้ากากอนามัยผ้า ได้จำนวน 179,588 ชิ้น แจกจ่ายไปแล้ว จำนวน 170,440 ชิ้น ส่วนการผลิตหน้ากากป้องกันใบหน้า Face Shield (ณ วันที่ 8 เม.ย.63) สามารถผลิตได้ จำนวน 18,436 ชิ้น
ทั้งนี้ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครได้กำชับให้ทุกหน่วยงานดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องอย่างต่อเนื่อง เพื่อดูแลสุขอนามัยของประชาชน โดยกวดขันร้านอาหาร สถานประกอบการ ให้ดำเนินการตามประกาศกรุงเทพมหานคร เรื่อง สั่งปิดสถานที่เป็นการชั่วคราว (ฉบับที่ 5) อย่างเคร่งครัดและต่อเนื่อง รวมทั้งลงพื้นที่ให้ความรู้และสร้างความเข้าใจแก่ประชาชนเกี่ยวกับวิธีป้องกันตนเองจากเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยเน้นย้ำการรักษาระยะห่างระหว่างบุคคลตามมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม (Social distancing) ในทุกสถานที่ ทั้งที่บ้าน ที่ทำงาน และที่สาธารณะ โดยเฉพาะการเพิ่มระยะห่างของสมาชิกในครอบครัว เพื่อลดความเสี่ยงในการแพร่กระจายเชื้อไวรัสโควิด-19 นอกจากนี้ ให้ดำเนินการแจกจ่ายแอลกอฮอล์ล้างมือและแจกหน้ากากอนามัยแบบผ้าให้แก่ประชาชนอย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งเน้นย้ำให้ทุกหน่วยงานจัดเตรียมอุปกรณ์สำหรับป้องกันแก่เจ้าหน้าที่ขณะปฏิบัติหน้าที่ให้เพียงพอ อาทิ หน้ากากอนามัย เจลแอลกอฮอล์ล้างมือ ถุงมือ รวมทั้งหน้ากาก face shield ในส่วนของประชาชนที่มีความจำเป็นจะต้องเดินทางออกนอกที่พักอาศัยของตัวเองเวลากลางคืนในช่วงเวลาที่มีการประกาศห้ามออกนอกเคหสถานตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และไม่ใช่บุคคลที่ได้รับการยกเว้นตามประกาศดังกล่าว สามารถยื่นขออนุญาตได้ที่ผู้บัญชาการตำรวจนครบาลหรือกองบังคับการตำรวจนครบาล 1-9 ตามท้องที่ที่ผู้ขอมีภูมิลำเนาหรือสถานที่ทำงานอยู่