วันแรกมีผู้ป่วยโควิดหายกลับบ้านมากกว่าผู้ป่วยรายใหม่ แต่ยังบอกแนวโน้มผู้ป่วยใหม่ลดลงไม่ได้ เหตุตัวเลขยังแกว่งมีขึ้นมีลง ต้องรอดูอีกหลายวันต่อเนื่อง แจงรักษาผู้ป่วยอาการน้อย 14 วันให้กลับบ้านได้ วิจัยชัดเชื้ออยู่ในลำคอไม่เกิน 8 วัน
วันนี้ (6 เม.ย.) นพ.ธนรักษ์ ผลิพัฒน์ รองอธิบดีกรมควบคุมโรค (คร.) กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า วันนี้มีผู้ป่วยโควิด-19 กลับบ้านเพิ่ม 119 ราย ส่วนผู้ป่วยรายใหม่ลดลงมาเหลือ 51 ราย ถือเป็นวันแรกที่มีผู้ป่วยกลับบ้านมากกว่าผู้ป่วยรายใหม่ ทั้งนี้ จำนวนผู้ป่วยรายใหม่จะเป็นตัวบอกว่ามาตรการที่ดำเนินการได้ผลหรือไม่ แต่ขณะนี้ก็ยังไม่ได้มีแนวโน้มที่ชัดเจนว่าผู้ป่วยรายใหม่ลดลง เพราะวันก่อนลดลงมาเหลือ 89 ราย และกลับขึ้นไปเป็น 102 ราย และลดลงมาเป็น 51 ราย ก็คือ ยังไม่ได้ลดลงต่อเนื่อง เพราะตัวเลขยังแกว่งอยู่ การจะบอกว่าแนวโน้มลดลง ตัวเลขผู้ป่วยรายใหม่ยังต้องลดลงอย่างต่อเนื่อง ส่วนผู้ป่วยหายกลับบ้านเพิ่มขึ้นถือเป็นเรื่องที่ดี ซึ่งก็เป็นไปตามจำนวนผู้ป่วยที่เพิ่มขึ้น คือ ไทยมีผู้ป่วยใหม่เกิน 100 ราย ในช่วง 15 มี.ค. การรักษาให้อยู่ใน รพ. 14 วัน ดังนั้น ช่วง เม.ย.ก็จะเห็นผู้ป่วยทยอยหายกลับบ้านเพิ่มขึ้น หากลดจำนวนผู้วยรายใหม่ลงได้ ผู้ป่วยหายเพิ่มขึ้น จำนวนผู้ป่วยที่จะคงเหลือใน รพ.ก็จะลดลง
นพ.ธนรักษ์ กล่าวว่า สำหรับผู้ป่วยรายใหม่วันนี้กว่าครึ่งยังเป็นผู้สัมผัสผู้ป่วยรายเดิม แต่ไม่น่ากังวลมากนัก เพราะกลุ่มนี้อยู่ในความดูแลอยู่แล้ว ไม่มีโอกาสไปแพร่เชื้อต่อ นอกจากนี้ ยังพบการระบาดเป็นกลุ่มก้อนในบุคลากรทางการแพทย์ 13 ราย โดยเกินครึ่งมาจาก กทม.และปริมณฑล ที่เหลือเป็นจังหวัดท่องเที่ยว เช่น ภูเก็ต ชลบุรี และจังหวัดเล็กๆ ที่มีผู้ป่วยไม่มาก
นพ.ธนรักษ์ กล่าวว่า สำหรับประเด็นผู้ป่วยหายแล้ว แต่เกิดการต่อต้านไม่ให้มาอยู่ในชุมชน ที่ผ่านมา สธ.พยายามสื่อสารให้ความรู้มากกว่าความกลัว เพราะเมื่อคนกลัวก็จะเกิดเรื่องพวกนี้ มีการรังเกียจตีตรา คนไข้ก็เลยไม่ยอมไปพบแพทย์ พบแพทย์ก็ไม่บอกความจริง เป็นความเสี่ยงแก่บุคคลทั่วๆ ไป ดังนั้น การให้ความรู้ที่ถูกต้อง วิธีการปฏิบัติตัวที่ถูกต้อง และความเข้าใจที่ถูกต้องเป็นยุทธศาสตร์สำคัญ อย่างคนที่หายแล้วไปอยู่ในชุมชนได้หรือไม่ ในกลุ่มคนป่วยที่มีอาการน้อยจะได้กลับบ้านใน 14 วัน คือ อยู่ใน รพ. 7 วัน และเมื่ออาการดีก็จะอยู่ใน Hospitel อีก 7 วัน หรือครบ 14 วันหลังมีอาการป่วย เมื่อกลับถึงบ้านยังปฏิบัติตัวเข้มข้นเพื่อป้องกันแพร่เชื้อ สวมหน้ากากอนามัยเหมือนเดิม ถามว่า จำนวน 14 วันพอหรือไม่ ยังมีเชื้ออยู่ไหม มีงานวิจัยบอกว่า เพียงพอเลยให้กลับบ้านได้ คือมีข้อมูลว่า เชื้ออยู่ในลำคอแบบยังมีชีวิตและสามารถแพร่ได้ 8 วัน และหลัง 8 วันไม่เจอเชื้อเลย ดังนั้น เรายังมีช่วงระยะเวลาปลอดภัยอีก 6 วัน อย่างไรก็ตาม ถ้าวันหลังมีข้อมูลใหม่ว่าเชื้ออยู่ในคอและแพร่เชื้อนานกว่า 8 วัน เราก็ปรับมาตรฐานการรักษา ตอนนี้เราใช้ความรู้เท่าที่มีให้เกิดประโยชน์ในการรักษาป้องกันโรคให้ดีที่สุด
นพ.ธนรักษ์ กล่าวว่า สำหรับกรณีคนแข็งแรงเท่ากัน แต่บางคนติดโควิด-19 อาการน้อย บางคนอาการเยอะ หรือมีเชื้อในร่างกายค่อนข้างนาน ยังไม่มีใครทราบคำตอบ นักวิทยาศาสตร์และแพทย์ก็ยังค้นคว้าต่อไป เช่นเดียวกับที่ว่าปริมาณเชื้อที่ได้รับในวันที่ติดเชื้อ ถ้ารับปริมาณมาก หากเป็นโรคอื่นๆ อาจบอกว่าทำให้มีอาการรุนแรงได้ แต่โรคนี้ยังไม่มีใครยืนยันข้อสังเกตนี้ได้ สำหรับการควบคุมโรคนี้ต้องควบคุมให้เบ็ดเสร็จเด็ดขาดก่อนถึงฤดูโรงเรียนเปิด ซึ่งเป็นช่วงหน้าฝน เพราะเมื่ออุณหภูมิ ความชื้นลดลง เชื้อก็อยู่ในสภาพแวดล้อมได้ยาวขึ้น และการกลับมารวมตัวคนในกลุ่มก้อนโรงเรียน มหาวิทยาลัย ถ้าเรากลับไปเรียนแบบเดิมขณะที่ยังควบคุมโรคได้ไม่ดี เป็นความท้าทายอย่างมากในการควบคุมโรคในประเทศไทยระยะต่อไป เพราะอาการของเด็กน้อยกว่าผู้ใหญ่ โดยเด็กที่ติดเชื้อพบว่า มีไข้และอาการไอไม่ถึงครึ่งหนึ่ง การป้องกันแพร่รบาดในจึงเป็นความท้าทาย