ชุมชนตำบลบางเตยน้อมนำเศรษฐกิจพอเพียง ร.๙ สู้โควิด

ชุมชนตำบลบางเตย น้อมนำวิถีพอเพียงหล่อเลี้ยงชีวิต ตามแนวพระราชดำริเศรษฐกิจพอเพียงของในหลวงรัชกาลที่ ๙ สู้โควิด-19

ไทยเร่งหามาตรการสกัดโควิด-19 ควบคู่การให้ความรู้แก่ประชาชนในเรื่องวิธีป้องกันเพื่อการดูแลตัวเองในหลากหลายช่องทางเพื่อให้เข้าถึงประชาชนทุกกลุ่ม ทุกวัย ส่วนผู้ใช้แรงงานที่หนีโควิด-19 และวิกฤตเศรษฐกิจจากกรุงเทพฯ กลับบ้านเกิดของตนเอง ยังมีชาวบ้านชุมชน ต.บางเตย อ.บ้านสร้าง จ.ปราจีนบุรี โดยพระครูโฆสิตปริยัติกิจ เจ้าอาวาสวัดบางเตย ซึ่งเป็นผู้นำ ร่วมกับ รพ.สต.บางเตย และแกนนำชุมชนคนเลิกเหล้าตลอดชีวิต สื่อสารให้ความรู้เพื่อป้องกันและทำความเข้าใจในการใช้ชีวิตประจำวัน สวดมนต์ ละเว้นเหล้า-บุหรี่ ลดเสี่ยงในสภาวะวิกฤตโรคระบาดครั้งนี้

พระครูโฆสิตปริยัติกิจกล่าวว่า การกระจายข่าวสารผ่านหอกระจายเสียงของทางวัด จากเดิมที่ใช้สื่อสารเรื่องธรรมะ สวดมนต์ให้ชาวบ้านในชุมชนรู้สึกสงบแล้ว ขณะนี้จะต้องใช้เพื่อนำข้อมูลข่าวสารจากทางสาธารณสุขเข้ามาร่วมสื่อสารด้วย เพื่อสร้างการรับรู้ เพื่อปรับเปลี่ยนทัศนคติและพฤติกรรมของชาวบ้านให้ตื่นตัว เป็นการป้องกัน และให้ช่วยกันสังเกตคนและเตือนในชุมชนให้อยู่บ้านเป็นหลัก ไม่ออกไปข้างนอกโดยไม่จำเป็น ที่สำคัญคือ กินร้อน ช้อนฉัน ห่างกัน 2 เมตร งดงานรื่นเริง การรวมกลุ่มสังสรรค์ รวมถึงดูแลเรื่องจิตใจของชาวบ้านทุกวัน นอกจากการใช้เสียงตามสายเพื่อแจ้งข่าวสารแล้วยังช่วยบอกกล่าวไม่ให้ชาวบ้านเกิดความวิตกกังวล ซึ่งในการกระจายข่าวสารจะสามารถส่งข่าวได้ระยะไกลถึง 6 หมู่บ้าน และได้ยินไปไกลรวมถึงในละแวกตำบลอื่นๆ อีกด้วย

ด้านคุณชัยวัฒน์ ภูทอง ผอ.รพ.สต.บางเตย กล่าวว่า ได้มีการประสานความร่วมมือกับท่านพระครูฯ โดยใช้ช่องทางการสื่อสาร เพื่อให้ความรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับข่าวสาร การป้องกันเชื้อโรคโควิด-19 ที่หน่วยงานภาครัฐ และภาคีภาคประชาสังคม เครือข่ายงดเหล้าภาคตะวันออกได้ร่วมกันรณรงค์อยู่ในขณะนี้ คือ ประเด็นการงดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ งดสูบบุหรี่ อันเป็นปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้ลดภูมิคุ้มกันของชาวบ้านซึ่งอาจทำให้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ได้ง่ายขึ้น

คุณแม่สมทรง หัสดิน แกนนำคนเลิกเหล้าตลอดชีวิตบ้านหมู่ 3 กล่าวว่า เป็นการทำงานจากฐานราก คือ ลงติดตามถามเยี่ยมตามบ้าน สื่อสารประชาสัมพันธ์ให้ความรู้ในการป้องกัน พร้อมแนะให้น้อมนำแนวคิดเศรษฐกิจพอเพียงของในหลวงรัชกาลที่ ๙ มาใช้ รวมถึงการใช้จ่ายเท่าที่จำเป็นไม่ฟุ่มเฟีอย ขณะที่ต้องอยู่บ้านตามแนวทางของภาครัฐที่ได้รณรงค์ “อยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ” ซึ่งผู้คนควรจะได้ตระหนัก ตื่นรู้ และเข้าใจมากขึ้น ทั้งนี้นับว่าเป็นการได้ลงสำรวจซ้ำเพื่อเพิ่มความมั่นใจให้กับชาวบ้านในชุมชนอีกทางด้วย

พ่อสมบุญ-แม่สมร สมศรี และแม่อิ่ม ยิ่งยง ชาวบ้านหมู่ 3 เล่าว่า ได้น้อมนำสิ่งที่ในหลวงรัชกาลที่ ๙ ทรงสอนให้รู้จักประมาณตนเอง ใช้ชีวิตพออยู่พอกิน ในบ่อมีปลานิล ในนาก็มีข้าว เลี้ยงไก่เก็บไข่ได้ในเล้า ในสวนมีกล้วย มีไม้ผลให้กินตลอดปี การที่เรารู้จักพึ่งพาตนเองตามแนวทางการดำเนินชีวิตตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง และไม่ยุ่งเกี่ยวกับอบายมุข ก็สามารถหาเลี้ยงชีพได้โดยไม่ลำบากแล้ว

อย่างไรก็ตาม วิกฤตภัยแล้ง ปัญหาน้ำกร่อยน้ำเค็ม และปัญหาน้ำจืดที่ไม่เพียงพอ อาจจะเป็นปัญหาของคนใจชุมชนบางเตยเสียมากกว่า เพราะยังต้องขายของในสวน เพื่อนำเงินมาซื้อน้ำจืดเอาไว้ใช้ในขีวิตประจำวัน แต่ก็ยังดีที่มีสระน้ำจืดที่รองรับน้ำฝนตามฤดูกาลเอาไว้ใช้ในยามจำเป็นได้ แต่ในสถานการณ์โรคระบาดที่ยังไม่รู้จุดจบของไวรัสร้าย โควิด-19 ชุมชนคงต้องลุกขึ้นมาช่วยเหลือกันก่อนส่วนภาครัฐ ภาคประชาสังคมต้องร่วมมือประสานพลังในการช่วยเหลือทุกรูปแบบ เพื่อจะก้าวผ่านวิกฤตนี้ไปด้วยกันให้ได้