สมศ. เปิดเวทีรับฟังความเห็น พัฒนากรอบแนวทางประเมินคุณภาพภายนอกรอบ 5 เผย ส่วนใหญ่ต้องการความยืดหยุ่นการประเมิน เหมาะสมกับสภาพความเป็นจริงของการศึกษา สถานศึกษาทุกแห่งควรได้รับการประเมินคุณภาพภายนอก 1 ครั้ง ในทุก 5 ปี เสนอแนวคิดคงความเป็น “กัลยาณมิตร” เน้นพัฒนาสถานศึกษาและผู้เรียนเป็นหลัก จ่อเสนอต่อบอร์ดพัฒนาระบบการประเมินคุณภาพการศึกษาขั้นพื้นฐาน และ อาชีวศึกษา
นางสาวขนิษฐา ตั้งวรสิทธิชัย รักษาการผู้อำนวยการสำนักงานรับรองมาตรฐาน และประเมินคุณภาพการศึกษา หรือ สมศ. กล่าวว่า สมศ.ได้เปิดเวทีรับฟังความคิดเห็นจากผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทั่วประเทศทั้ง 4 ภูมิภาค ได้แก่ ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคใต้ และ ภาคกลาง เพื่อพัฒนากรอบแนวทางการประเมินคุณภาพภายนอกรอบห้า ทั้งการศึกษาปฐมวัย การศึกษาขั้นพื้นฐาน และการอาชีวศึกษา ทั้งนี้จากการสรุปความคิดเห็นจากผู้ที่มีส่วนได้ส่วนเสีย กับการพัฒนากรอบแนวทางการประเมินคุณภาพภายนอกรอบห้า พบว่า ส่วนใหญ่เห็นด้วยกับการประเมินคุณภาพภายนอก ว่า ควรสอดคล้องกับมาตรฐานการประกันคุณภาพภายใน โดยเน้นการประเมินเพื่อพัฒนาและรักษาคุณภาพการจัดการศึกษา และประเมินจากหลักฐานเชิงประจักษ์ ผ่านสมรรถนะของผู้เรียนเป็นหลักมากกว่าการประเมินผ่านเอกสาร โดยแนวทางดังกล่าวถือว่าเป็นหัวใจสำคัญของระบบการประเมินภายนอก ซึ่งเป็นแนวทางที่ สมศ. ได้ดำเนินการมาตั้งแต่การประเมินคุณภาพภายนอกรอบสี่ (พ.ศ.2559 - พ.ศ.2563)
นอกจากนี้ ความคิดเห็นจากผู้เข้าร่วมประชุมส่วนใหญ่เห็นด้วยกับการประเมินคุณภาพภายนอกของสถานศึกษาควรเน้นการพัฒนาการศึกษาเป็นหลัก และสถานศึกษาทุกแห่งต้องได้รับการประเมิน รวมถึงคำนึงถึงผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย และบริบทของสถานศึกษา อีกทั้งจะต้องสร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับแนวคิด หลักการ กรอบแนวทาง วิธีการประเมิน หลักเกณฑ์ต่างๆ เพื่อให้การตัดสินผลการประเมินชัดเจน ลดความสับสน และลดข้อขัดแย้งต่างๆ อย่างไรก็ตาม การประเมินคุณภาพภายนอกจำเป็นที่จะต้องอ้างอิงมาตรฐานสากล เพื่อให้ระบบการศึกษาของไทยมีมาตรฐานทัดเทียมกับต่างประเทศ ด้านการประเมินระดับนานาชาติเห็นว่าควรจะไปไปตามความพร้อมและความสมัครใจของสถานศึกษาแต่ละแห่ง ซึ่งการประเมินในระดับนานาชาติไม่ควรจะบังคับให้สถานศึกษาทุกแห่งเข้ารับการประเมิน
นางสาวขนิษฐา กล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตาม แนวการประเมินโดยภาพรวมต้องประเมินแบบกัลยาณมิตร เพื่อการพัฒนา โดยไม่มีการตัดสินผลว่าสถานศึกษาจะการประเมินผ่านเกณฑ์หรือไม่ผ่านเกณฑ์ แต่จุดเด่น คือ การให้คำแนะนำและชี้ให้เห็นว่าสถานศึกษาควรจะพัฒนาไปในทิศทางใด เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับสถานศึกษาและผู้เรียนเป็นหลัก รวมทั้งจะมีการติดตามผลการดำเนินงานของสถานศึกษาอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ สมศ. มีเป้าหมายในการขับเคลื่อนการประเมินคุณภาพภายนอก โดยให้สถานศึกษาสามารถเลือกระดับการประเมินตามศักยภาพของสถานศึกษาแต่ละแห่ง โดยเฉพาะการประเมินในระดับนานาชาติ อย่างไรก็ตาม การประชุมรับฟังความเห็นในครั้งนี้เป็นเพียงหลักการและแนวคิดแบบกว้างๆ เท่านั้น ทั้งนี้ สมศ. จะสรุปข้อคิดเห็นเพื่อเสนอต่อคณะกรรมการพัฒนาระบบการประเมินคุณภาพการศึกษาขั้นพื้นฐาน และคณะกรรมการพัฒนาระบบการประเมินคุณภาพการศึกษาด้านการอาชีวศึกษา เพื่อการพัฒนาระบบการประเมินคุณภาพภายนอกรอบห้าต่อไป ซึ่งเมื่อได้กรอบแนวทางแล้ว จะมีการจัดประชุมประชาพิจารณ์เพื่อรับฟังความเห็นจากผู้มีส่วนได้ส่วนเสียอีกครั้ง