พยากรณ์โรครายสัปดาห์ คาด พบผู้ป่วยโรคไอกรนเพิ่มมากขึ้น หลังพบข้อมูลเด็กเล็กป่วยมากขึ้น ส่วนใหญ่ติดเชื้อจากคนในครอบครัวที่ไม่แสดงอาการป่วย ย้ำ รับวัคซีนตามเกณฑ์
วันนี้ (28 มี.ค.) กรมควบคุมโรค เผยแพร่พยากรณ์โรคและภัยสุขภาพรายสัปดาห์ ระหว่างวันที่ 29 มี.ค. - 4 เม.ย. 2563 เตือนอาจพบการป่วยโรคไอกรนสูงขึ้น โดยระบุว่า จากการเฝ้าระวังสถานการณ์โรคไอกรนในประเทศไทย ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. ถึงวันที่ 16 มี.ค. 2563 มีผู้ป่วยแล้ว 19 ราย จาก 12 จังหวัด ไม่มีผู้เสียชีวิต ซึ่งผู้ป่วยส่วนใหญ่ไม่ได้รับวัคซีนตามเกณฑ์ โดยกลุ่มอายุที่พบมากที่สุด 3 อันดับ คือ แรกเกิด-4 ปี (52.63%) 55-64 ปี (10.53%) และ อายุมากกว่า 65 ปีขึ้นไป (10.53%) ส่วนจังหวัดที่มีอัตราป่วยต่อประชากรแสนคนสูงสุด 5 อันดับแรก คือ ตาก อุบลราชธานี บึงกาฬ นครสวรรค์ และ ชัยภูมิ ตามลำดับ โดยพบผู้ป่วยมากที่สุดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ รองลงมาคือ ภาคเหนือ ภาคกลาง และ ภาคใต้ ตามลำดับ
การพยากรณ์โรคและภัยสุขภาพประจำสัปดาห์นี้ คาดว่า ในช่วงนี้จะยังพบผู้ป่วยโรคไอกรนได้ และคาดการณ์ว่า ในปีนี้จะมีแนวโน้มพบผู้ป่วยโรคไอกรนเพิ่มสูงขึ้น เนื่องจากข้อมูลการรายงานโรคพบว่าเด็กที่ป่วยด้วยโรคไอกรน ส่วนใหญ่ติดเชื้อจากสมาชิกในครอบครัวที่ไม่แสดงอาการป่วย โรคไอกรนเป็นโรคติดต่อที่สามารถพบได้ตลอดทั้งปี มักพบในเด็กแรกเกิด ติดต่อโดยการหายใจเอาเชื้อจากการไอ จาม ของบุคคลที่มีเชื้อโรคในร่างกายทั้งที่มีอาการป่วย หรือไม่แสดงอาการ สามารถป้องกันได้ด้วยการรับวัคซีนตามเกณฑ์
กรมควบคุมโรค ขอแนะนำว่า ผู้ที่มีอาการไอ จาม ไม่ควรคลุกคลีกับเด็กแรกเกิด หากจำเป็นต้องใกล้เด็กควรสวมหน้ากากอนามัย หรือไม่ควรพาเด็กเล็กไปในสถานที่ชุมนุมหรือแออัด หากพบเด็กมีอาการไอเป็นชุดๆ ไอมาก หายใจไม่ทัน หรือไอมีเสียงวู๊ป ให้รีบพาไปพบแพทย์ทันที และขอแนะนำพ่อแม่ ผู้ปกครองให้พาบุตรหลานของท่านไปฉีดวัคซีนคอตีบ ไอกรน บาดทะยัก ตามช่วงเวลาที่กำหนด เพื่อลดอัตราการเกิดโรคและความรุนแรงของโรคได้