กรมควบคุมโรค ขอเผยแพร่ “พยากรณ์โรคและภัยสุขภาพรายสัปดาห์”ฉบับที่ 249 ประจำสัปดาห์ที่ 7 ระหว่างวันที่ 16 – 22 ก.พ. 63
นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค เปิดเผยว่า จากการเฝ้าระวังของกรมควบคุมโรค สถานการณ์โรคไข้เลือดออก ตั้งแต่ 1 มกราคม–11 กุมภาพันธ์ 2563 มีผู้ป่วยสะสม 3,283 ราย ไม่มีผู้เสียชีวิต กลุ่มอายุที่มีผู้ป่วยสูงสุด คือ กลุ่มอายุ 15-24 ปี (24.64 %) รองลงมาคือ 10-14 ปี (20.32 %) และ 25-34 ปี (13.13 %) ตามลำดับ โดยภาคที่มีอัตราป่วยสูงสุด คือ ภาคใต้ รองลงมาคือภาคกลาง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคเหนือ ตามลําดับ ส่วนจังหวัดที่มีอัตราป่วยสูงสุด 5 อันดับแรก คือ ระยอง นครปฐม อ่างทอง ยะลา และสงขลา โดยในต้นปีนี้มีจังหวัดที่ยังไม่มีผู้ป่วย คือ จังหวัดนครนายก และบึงกาฬ
การพยากรณ์โรคและภัยสุขภาพประจำสัปดาห์นี้ คาดว่าในช่วงนี้จะยังพบผู้ป่วยโรคไข้เลือดออกเพิ่มขึ้น แม้จะยังไม่ใช่ฤดูการระบาดของโรคก็ตาม แต่เนื่องจากรายงานของกรมอุตุนิยมวิทยา คาดว่าในช่วงนี้สภาพอากาศแปรปรวน อาจมีฝนฟ้าคะนองในบางพื้นที่ และหากฝนตกอาจทำให้เกิดน้ำขังตามภาชนะและวัสดุต่างๆ เป็นแหล่งเพาะพันธุ์ของยุงลายได้ กรมควบคุมโรค ขอให้ประชาชน ชุมชน และหน่วยงานต่างๆ ร่วมกันกำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ลูกน้ำยุงลายอย่างต่อเนื่องเป็นประจำ โดยเฉพาะในช่วงต้นปี ซึ่งเป็นช่วงก่อนเข้าฤดูการระบาดของโรค ถือว่าเป็นช่วงเวลาทองที่สามารถตัดวงจรชีวิตยุงได้ เนื่องจากไข่ยุงลายสามารถอยู่ได้เป็นปี โดยเฉพาะตามภาชนะ เช่น โอ่ง แจกัน จานรองตู้กับข้าว จานรองกระถาง ยางรถยนต์เก่า ที่มีน้ำขังจะมีไข่ยุงเกาะ สังเกตไข่ยุงจะเป็นขุยดำๆ เล็กๆ ติดอยู่ตามขอบ ต้องขัดไข่ยุงออก ดังนั้น ช่วงเวลานี้จึงเหมาะสมที่จะต้องช่วยกันกำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ โดยเริ่มต้นจากดูแลบ้านตนเอง สำรวจภาชนะต่างๆ ไม่ให้มีน้ำขัง ควรปิดฝาภาชนะให้มิดชิด หรือในแจกันดอกไม้ควรเปลี่ยนน้ำทุกๆ 7 วัน เก็บทำลายเศษวัสดุต่างๆไม่ให้มีน้ำขัง และควรเก็บบ้านให้โปร่งไม่มีมุมอับที่เกาะพักของยุง ตัดวงจรชีวิตยุงลาย ลดการแพร่ระบาดของโรค นอกจากนี้ ควรป้องกันไม่ให้ยุงกัด โดยทายากันยุง นอนในมุ้งแม้เป็นช่วงเวลากลางวัน และหากมีอาการไข้สูง เบื่ออาหาร คลื่นไส้ อาเจียน หน้าแดง ปวดศีรษะ มีรอยจ้ำเลือดสีแดงตามลำตัว แขน ขา หรือสงสัยว่าป่วยด้วยโรคไข้เลือดออก ให้รีบพบแพทย์ทันที สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร.1422