ปลัด สธ.รับมอบ “แอลกอฮอล์” จาก ปตท. 3 หมื่นลิตร ให้ อภ.ผลิตแอลกอฮอล์ฆ่าเชื้อเข้มข้น 70% จำนวน 2 หมื่นลิตร เผย อนุมัติงบกลาง 1.5 พัน ล. ซื้อชุดป้องกัน หน้ากาก ยาและเวชภัณฑ์ สู้โควิด-19 ระบุ เจรจาจีนและญี่ปุ่นซื้อยาฟาวิพิราเวียร์ 3.4 แสนเม็ด รอจ่ายเงิน จะบินตรงไปรับยาทันที เผย จุดสำรองยาเวชภัณฑ์ ทั้ง กทม. และ ต่างจังหวัด
วันนี้ (27 มี.ค.) นพ.สุขุม กาญจนพิมาย ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) รับมอบแอลกอฮอล์ปริมาณ 30,000 ลิตร จาก นายชาญศิลป์ ตรีนุชกร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) และ นพ.วิฑูรย์ ด่านวิบูลย์ ผู้อำนวยการองค์การเภสัชกรรม (อภ.) เพื่อนำไปใช้ประโยชน์ทางการแพทย์ โดยแอลกอฮอล์นี้ จะส่งมอบต่อไปยังโรงพยาบาล ในสังกัด สธ.ทั่วประเทศ
นพ.สุขุม กล่าวว่า สธ.ได้จัดระบบบริการและกระจายทรัพยากรต่างๆ ทั้ง ยา เวชภัณฑ์ วัสดุทางการแพทย์ ชุดป้องกันโรค หน้ากากชนิดต่างๆ จำนวนเตียง เครื่องช่วยหายใจ รวมทั้งแอลกอฮอล์ฆ่าเชื้อโรค ซึ่งเป็นเวชภัณฑ์จำเป็นที่บุคลากรสาธารณสุข มีความต้องการใช้อย่างมากในช่วงสถานการณ์โรคโควิด-19 โดยแอลกอฮอล์ที่ได้รับมอบวันนี้ เป็นแอลกอฮอล์เกรดคุณภาพสูงสำหรับยา และผลิตภัณฑ์แอลกอฮอล์ฆ่าเชื้อความเข้มข้น 70% รวมทั้งสิ้นจำนวน 30,000 ลิตร จากบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) และองค์การเภสัชกรรม โดยจะกระจายไปยังโรงพยาบาลในสังกัดกระทรวงสาธารณสุขทั่วประเทศต่อไป
นพ.สุขุม กล่าวว่า ตามที่เราได้รับอนุมัติงบกลาง 1,500 ล้านบาท เพื่อนำไปบริหารจัดการซื้ออุปกรณ์ยาและเวชภัณฑ์ในการควบคุมและแก้ไขสถานการณ์โควิด-19 ขณะนี้ได้มอบให้ อภ.ดำเนินการสั่งซื้อ จากจีน และ ญี่ปุ่น ในรูปแบบรัฐต่อรัฐ คาดว่า จะสามารถจัดซื้อยาฟาวิพิราเวียร์ ได้ประมาณ 340,000 เม็ด เพียงพอใช้กับผู้ป่วย 6,000 คน โดยจะใช้ในรายผู้ป่วยที่มีอาการหนัก ปอดอักเสบติดเชื้อรุนแรง ส่วนผู้ที่อาการไม่รุนแรง ก็รักษาตามอาการ ส่วนการจัดซื้อหน้ากากอนามัย หน้ากาก N95 และ ชุด PPE รวมอย่างละ 2 ล้านชิ้น โดยได้ตั้งศูนย์บริหารจัดการกระจายและเวชภัณฑ์โควิด-19 ขณะนี้ อภ.ได้ทำการตกลงซื้อขายแล้ว รอจ่ายค่ายา และประสานสายการบินพาณิชย์ไปรับยาเอง
นพ.วิฑูรย์ กล่าวว่า อภ.ได้นำแอลกอฮอล์ความเข้มข้น 95% ที่รับมอบจาก ปตท. จำนวน 15,000 ลิตร มาผลิตด้วยกรรมวิธีทางเภสัชกรรม เป็นผลิตภัณฑ์แอลกอฮอล์ฆ่าเชื้อสีฟ้าใส ความเข้มข้น 70% ได้ผลิตภัณฑ์จำนวน 20,000 ลิตร เป็นความเข้มข้นที่มีประสิทธิภาพที่ดีในการลดเชื้อและอยู่ในช่วงค่ามาตรฐานที่มีประสิทธิภาพในการทำความสะอาดตามที่องค์การอนามัยโลก (WHO) แนะนำ ทั้งนี้ องค์การเภสัชกรรมจะได้กระจายผลิตภัณฑ์ไปยังโรงพยาบาลในสังกัดกระทรวงสาธารณสุข ตามความจำเป็นอย่างเหมาะสมต่อไป
ด้าน นพ.ไพศาล ดั่นคุ้ม เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) กล่าวว่า การสนับสนุนวัสดุอุปกรณ์ทางการแพทย์ในการดูแลผู้ป่วยโควิดจะมี ชุด PPE หน้ากากอนามัย หน้ากาก N95 ต้องมีความพอเพียงและทันเวลา ดังนั้น อยากให้มั่นใจว่า อุปกรณ์จะส่งไปให้บุคลากรทางการแพทย์ทุกสังกัดอย่างเพียงพอ รวมถึงยาด้วย โดยมี อภ.เป็นผู้จัดหาและกระจาย อย่างไรก็ตาม ไม่รวมเรื่องหน้ากากอนามัยของ รพ.ในสังกัดมหาวิทยาลัยและเอกชน เพราะมีการซื้อจากผู้ผลิตโดยตรง แต่ อย.จะดูเรื่องคุณภาพ อย่างไรก็ตาม เฉพาะ รพ.ในสังกัดกระทรวงขณะนี้ได้รับวันละ 1.5 ล้านชิ้น ถือว่าเพียงพอ ส่วนหน้ากาก N95 จะใช้เฉพาะบุคลากรที่ใกล้ชิดผู้ป่วย และการติดโควิดจะติดจากละอองฝอย เราจะกระจายโดยใช้ข้อมูลจากกรมควบคุมโรค ว่า มีเคสผู้ป่วยเฝ้าระวังและป่วยเท่าไหร่ เพื่อคำนวณและส่งลงไปให้ในพื้นที่ๆ
“ขณะนี้มีการสำรองชุด PPE จำนวน 10,000 ชุด ไว้ที่ รพ.ราชวิถี เพื่อให้ รพ.จากทุกสังกัดใน กทม. ที่มีความขาดแคลน ส่วนพื้นที่ต่างจังหวัดก็มีการสำรองไว้เช่นกัน ส่วนเรื่องยาฟาวิพิราเวียร์รักษา ส่วนกลางสำรองไว้ที่ อภ. ต่างจังหวัดจะสำรองไว้ที่เขตบริการสุขภาพ โดยเขตฯ 1 รพ.นครพิง เขตฯ 2 รพ.พุทธชินราช เขตฯ 3 รพ.สวรรค์ประชารักษ์ เขตฯ 4 รพ.พระนั่งเกล้า เขตฯ 5 รพ.นครปฐม เขตฯ 6 รพ.ชลบุรี เขตฯ 7 รพ.ขอนแก่น เขตฯ 8 รพ.อุดรธานี เขตฯ 9 รพ.สมเด็จพระยุพราช นครราชสีมา เขตฯ 10 รพ.สรรพสิทธิประสงค์ เขตฯ 11 รพ.วชิระภูเก็ต และ เขตฯ 12 รพ.หาดใหญ่” นพ.ไพศาล กล่าว