สธ.ยัน นศ.ไทยกลับจากกุ้ยหลิน ป่วยอยู่ รพ.ศรีสะเกษ ไม่เข้าข่ายโรคปอดอักเสบโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ เหตุพ้นระยะฟักตัวของโรคไปแล้ว เผยเพิ่มคัดกรองสายการบินจากกว่างโจวที่ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงรายด้วย
วันนี้ (26 ม.ค.) นพ.สุขุม กาญจนพิมาย ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวถึงกรณีข่าวพบผู้ป่วยสงสัยติดเชื้อโรคปอดอักเสบจากเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 ที่ รพ.ศรีสะเกษ ว่า ขณะนี้ได้รับรายงานจากผู้ตรวจราชการ สธ.เขตสุขภาพที่ 10 ว่า ผู้ป่วยรายนี้เป็นนักศึกษาเดินทางมาจากประเทศจีน มณฑลกวางสี เมืองกุ้ยหลิน เข้ามาในประเทศไทยเมื่อวันที่ 7 ม.ค. 2563 เริ่มป่วยวันที่ 25 ม.ค. 2563 มีอาการหอบ เหนื่อย มีน้ำมูก มีไข้สูงๆ ต่ำๆ จึงได้มาพบแพทย์ที่โรงพยาบาลชุมชนและถูกส่งตัวมารักษาตัวที่โรงพยาบาลจังหวัด ทั้งนี้ เนื่องจากผู้ป่วยรายนี้เริ่มป่วยหลังเดินทางกลับจากพื้นที่เสี่ยงได้ 16 วัน ซึ่งพ้นจากระยะฟักตัวของโรคปอดอักเสบจากเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 แล้ว แต่เนื่องจากผู้ป่วยมีโรคประจำตัว คือ โรคหอบหืด และเพื่อลดความวิตกกังวลของญาติ จึงได้รับตัวไว้รักษาตัวในโรงพยาบาล ขณะนี้อาการดีขึ้น ให้การรักษาตามอาการ โดยแพทย์ผู้รักษาได้ทำความเข้าใจกับผู้ป่วยและญาติเป็นที่เรียบร้อยแล้ว อย่างไรก็ตาม ได้ให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุขเฝ้าระวังลงพื้นที่เยี่ยมบ้าน ดูแลจนแน่ใจว่าปลอดภัยดี
นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร ผู้อำนวยการสำนักโรคติดต่อทั่วไป กรมควบคุมโรค (คร.) กล่าวว่า ประเทศไทยมีระบบการเฝ้าระวังเข้มข้น 3 จุด คือ 1.สนามบินจะถูกตรวจคัดกรองหากมีไข้จะต้องส่งโรงพยาบาลวินิจฉัยรักษา 2.เฝ้าระวังในสถานพยาบาล ซึ่งจะมีผู้ป่วยเข้าเกณฑ์สอบสวนโรคเดินทางมาพบเมื่อมีอาการป่วย ซึ่งที่เข้ามาส่วนใหญ่เป็นไข้หวัดใหญ่ และ 3.ชุมชนแหล่งท่องเที่ยว ซึ่งมีการให้ความรู้กับทางโรงแรม หัวหน้าทัวร์ ให้สังเกตอาการของลูกทัวร์ หากมีอาการให้รีบแจ้ง สำหรับการคัดกรองสายการบินที่มาจากกว่างโจว ได้เพิ่มการคัดกรองที่ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง จ.เชียงรายด้วย