กทม.เตรียมหาสาเหตุ "เขตพระนคร" ค่าฝุ่นสูงสุดหลายวันติด ทั้งที่ไม่ใช่เขตโรงงาน-รถบรรทุก เผยตรวจสอบแล้วเครื่องทำงานปกติ แต่เตรียมติดอีกเครื่องเพื่อเปรียบเทียบ เบื้องต้นคาดเครื่องตั้งใกล้ป้ายรถเมล์ อาจรับฝุ่นควันมลพิษสูง ระบุค่าฝุ่นเป็นแค่จุดเดียวของเขต ไม่ได้แปลว่าสูงทั้งพื้นที่ ยิ่งค่าเฉลี่ยทั้ง กทม.สูง แสดงว่ามีแนวโน้มสูงในหลายพื้นที่ ขอ ปชช.ลดกิจกรรมกลางแจ้ง เตรียมชงผู้ว่าฯ กทม.ออกมาตรการเพิ่มเติม
วันนี้ (21 ม.ค.) นายชาตรี วัฒนเขจร ผู้อำนวนการสำนักสิ่งแวดล้อม กรุงเพมหานคร (กทม.) กล่าวถึงกรณีค่าฝุ่นเขตพระนครพุ่งสูงสุดของ กทม.ต่อเนื่องหลายวัน ทั้งที่ไม่ใช่พื้นที่โรงงานหรือมีการเข้ามาของรถบรรทุก ว่า จากการให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบเครื่องวัดค่าฝุ่นละอองว่า เครื่องผิดปกติหรือเออเรอร์หรือไม่ ก็พบว่า เครื่องยังมีความปกติดี ดังนั้น จึงจะมีการนำเครื่องวัดฝุ่นละอองแบบโมบายอีกเครื่องมาติดตั้งในจุดเดียวกัน เพื่อเปรียบเทียบเครื่องวัดว่า มีความแตกต่างกันหรือไม่อย่างไร หากค่าไม่แตกต่างก็แสดงว่าค่าฝุ่นเกินค่ามาตรฐานจริง ส่วนสาเหตุที่ทำให้เกินค่ามาตรฐานก็ต้องไปตรวจสอบดู เพราะเท่าที่ทราบคือ การติดตั้งเครื่องวัดฝุ่นละอองของเขตพระนคร อยู่บริเวณหน้าสำนักงานเขต ใกล้กับป้ายรถเมล์ อาจมีปัญหาจากเรื่องรถเมล์หรือรถที่จอดแล้วทำให้เกิดควันหรือมลพิษตรงนั้น อย่างไรก็ตาม ต้องชี้แจงว่า ค่าฝุ่นของแต่ละเขตที่แสดงผลออกมานั้น เป็นการวัดค่าฝุ่นเพียงแค่จุดเดียวของเขตนั้น และกลายเป็นตัวแทนของพื้นที่เขตนั้น ดังนั้น ไม่ได้แปลว่าค่าฝุ่นที่สูงขึ้นจะสูงทั้งเขต
เมื่อถามว่าจะมีการติดตั้งเครื่องวัดเพิ่มเติมหรือไม่เพราะค่าที่แสดงผลไม่ได้ครอบคลุมพื้นที่ทั้งเขต นายชาตรี กล่าวว่า เครื่องวัดฝุ่นละอองถ้าเป็นขนาด PM 10 เรามีการติดตั้งครบทั้ง 50 เขตแล้ว แต่ในส่วนของเครื่องวัดฝุ่น PM 2.5 ตอนนี้มีทั้งสิ้น 23 เขต รวม 24 จุด และติดตั้งเครื่องวัด PM 2.5 เพิ่มเติมไปอีก 13 เขต รวมเป็น 36 เขต 37 จุด และใน ก.พ.นี้จะติดตั้งอีก 17 จุด ก็จะครบทั้ง 50 เขต รวม 54 จุด
ถามต่อว่าเมื่อเครื่องวัด PM 2.5 ยังไม่ครบทุกเขต การออกมาให้ข้อมูลค่าฝุ่น PM 2.5 ในเขตที่ยังไม่มีการติดตั้ง เป็นการอนุมานค่าหรือไม่ นายชาตรี กล่าวว่า เราไม่ได้อนุมาน เพราะ 50 เขตเรามีเครื่องวัดค่าฝุ่น PM 10 ซึ่งค่า PM 10 ที่วัดได้สามารถมาเทียบเคียงกับค่า PM 2.5 ได้ตามหลักวิชาการ ว่า PM 10 ประมาณเท่านี้ ค่า PM 2.5 น่าจะประมาณเท่านี้ ก็จะประมาณการณ์ตรงนั้นได้ แต่ PM 2.5 จะเสร็จสิ้นทั้งหมดทุกเขตใน ก.พ.นี้
ถามต่อว่า ค่าฝุ่นที่รายงานเป็นแค่เฉพาะจุด แต่ไม่ใช่ทุกพื้นที่ในเขต เมื่อค่าฝุ่นสูงทำให้คนตระหนก มีคำแนะนำอะไรหรือไม่ นายชาตรี กล่าวว่า จุดที่ตรวจวัด เป็นจุดที่มีความเสี่ยงกับค่ามลพิษ เช่น ประชาชนหนาแน่น ประชาชนใช้รถใช้ถนน บริเวณริมถนน หรือจุดอับต่างๆ แต่หากค่าเฉลี่ยทั้ง กทม.นั้นเกินทุกเขต ก็มีแนวโน้มว่าจะเกินในหลายๆ จุดหรือหลายๆ เขต ไม่เฉพาะบริเวณที่เป็นเครื่องวัด ประชาชนก็ต้องติดตามข่าวสารและป้องกันตนเองในเรื่องการไม่ทำกิจกรรมกลางแจ้งในช่วงนี้ โดยเฉพาะเด็กเล็ก ผู้ป่วย ผู้สูงอายุ หญิงมีครรภ์ จะออกจากบ้านก็อาจต้องสวมหน้ากากอนามัยป้องกัน
เมื่อถามถึงแนวทางแก้ปัญหา นายชาตรี กล่าวว่า ขณะนี้ท่านปลัด กทม.ได้สั่งการไปทั้ง 50 เขตแล้วว่า ให้ช่วงนี้เขตไปดำเนินการอะไรบ้าง เช่น ควบคุมการจราจร โดยประสานกับจราจรในพื้นที่ในการเร่งระบายรถ เพื่อไม่ให้รถติด รณรงค์ไม่ขับช่วยดับเครื่อง และเข้มงวดเรื่องการเผาในที่โล่งให้ทำการจับปรับในอัตราโทษสูงสุดตามประกาศภาวะฉุกเฉิน ถ้าจับได้ก็จะมีโทษจำคุกไม่เกิน 3 เดือน ปรับไม่เกิน 2.5 หมื่นบาท และให้ประสานควบคุมดูแลเรื่องฝุ่นจากการก่อสร้าง ให้ปฏิบัติตาม พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร หรือมาตรการอีไอเอ ส่วนช่วงตรุษจีนที่จะถึงก็ทำได้แค่ขอความร่วมมือประชาชนให้งดหรือลดการจุดธูปเผากระดาษให้น้อยลง อย่างไรก็ตาม จะมีการเสนอต่อ พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการ กทม. ในการออกมาตรการต่างๆ เพิ่มขึ้น เช่น หากค่าฝุ่นเกิน 75 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร อาจจะให้มีการเหลื่อมเวลาในการทำงานหรือสั่งหยุดเรียน ซึ่งคงต้องรอการประชุมให้มีความชัดเจนก่อน
