ทูตแรงงานเร่งประสานนายจ้างในอิรักและอิหร่าน สำรวจความต้องการช่วยเหลือ "แรงงานไทย" ดูแลความปลอดภัย พร้อมอำนวยความสะดวกตามแผนอพยพส่งกลับประเทศ หากสถานการณ์อิหร่านตอบโต้สหรัฐรุนแรงขึ้น
วันนี้ (8 ม.ค.) ม.ร.ว.จัตุมงคล โสณกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าวถึงสถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างสหรัฐอเมริกากับอิหร่านและอิรัก ว่า ตนได้สั่งการให้อัครราชทูตที่ปรึกษา (ฝ่ายแรงงาน) สำนักงานแรงงานในประเทศซาอุดิอาระเบีย (กรุงริยาด) ซึ่งดูแลแรงงานไทยในประเทศอิรัก และอัครราชทูตที่ปรึกษา (ฝ่ายแรงงาน) ประจำสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงอาบูดาบี สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ซึ่งรับผิดชอบดูแลแรงงานไทยในประเทศอิหร่าน ได้ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมแรงงานไทยและประสานกับนายจ้างที่มีการจ้างแรงงานไทยให้ได้รับทราบข้อมูลเกี่ยวกับสถานการณ์ เพื่อสำรวจข้อมูลความต้องการช่วยเหลือของแรงงาน รวมทั้งให้รวบรวมข้อมูลสถานที่ทำงาน ช่องทางการติดต่อทางการกรณีได้รับผลกระทบ และเตรียมความพร้อมในการอำนวยความสะดวกแรงงานไทยและคนไทยในการอพยพหากสถานการณ์ความขัดแย้งรุนแรงขึ้น
น.ส.โสพิศ หมัดป้องตัว อัครราชทูตที่ปรึกษา (ฝ่ายแรงงาน) ประจำสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงอาบูดาบี สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ กล่าวว่า ได้ประสานงานกับผู้จัดการบริษัทที่นำเข้าแรงงานไทยไปทำงานในกิจการประมงทะเล ที่เมืองบันดาร์อับบาส ประเทศอิหร่าน เกี่ยวกับความห่วงใยที่กระทรวงแรงงาน และรัฐบาลไทยมีต่อแรงงานไทยในประเทศอิหร่าน ต่อเหตุการณ์ดังกล่าว ซึ่งส่งผลให้เกิดการเคลื่อนไหวของอิหร่าน ที่จะตอบโต้สหรัฐอเมริกา ซึ่งได้รับการประสานแจ้งว่า บริษัทดาร์ยาคาร์ซูลู จำกัด โดยนายเมอร์ด้า เอชรา ผู้บริหารบริษัทเรือประมงที่ประเทศอิหร่าน ได้ตระหนักและห่วงใยสถานการณ์ระหว่างอิหร่านกับสหรัฐอเมริกาที่กำลังเกิดขึ้นในขณะนี้ โดยจะเข้าหารือกับเจ้าหน้าที่สถานทูตไทยในเตหะรานเกี่ยวกับสถานการณ์และการส่งคนงานไทยกลับในกรณีที่มีเหตุการณ์รุนแรงถึงขั้นที่จำเป็นต้องอพยพคนงานกลับประเทศต่อไป นอกจากนี้ ยังได้ประสานไปยังร้านนิโรฟา ซึ่งเป็นร้านนวดไทยในกรุงเตหะราน พบว่า มีแรงงานไทย จำนวน 33 คน โดยติดต่อกับนายสรธัญ บูรณวิจารณ์ อดีตหัวหน้าแรงงานไทย แจ้งว่า สถานทูตให้ใช้ช่องทางติดต่อทางการ 2 ช่องทาง ได้แก่ ทางแอปพลิเคชันไลน์กลุ่มชุมชนไทยในอิหร่าน แรงงานไทยจึงมีช่องทางการรับข้อมูลข่าวสารจากทาง สอท.เตหะรานตลอดเวลา รวมทั้งการติดตามข่าวสารจากคนไทยและลูกค้าที่มาใช้บริการ จึงได้ช่องทางการติดต่อข้างต้น
นาวาตรีวิทวัส กู้ประเสริฐ อัครราชทูตที่ปรึกษา (ฝ่ายแรงงาน) สำนักงานแรงงานในประเทศซาอุดิอาระเบีย (กรุงริยาด) กล่าวว่า ได้ประสานไปยังสถานประกอบการด้านที่พัก โรงแรม ร้านอาหาร ธุรกิจสปา และสถานประกอบการอื่น ๆ ที่มีแรงงานไทยเข้าไปทำงาน อาทิ Amazing Spirit, 300Spa, Nobel hotel, Capitol hotel ซึ่งอยู่ที่เมืองเอบิล เมืองหลวงของเคิดร์ ในเขตปกครองพิเศษเคอร์ดิสถาน ทางตอนเหนือของอิรัก เป็นต้น เพื่อตรวจเยี่ยมแรงงานไทยและประสานกับนายจ้างให้ได้รับทราบข้อมูลเกี่ยวกับสถานการณ์ รวมทั้งสำรวจความต้องการช่วยเหลือของแรงงานกรณีเหตุการณ์รุนแรงจนต้องอพยพคนงานกลับประเทศต่อไป