โดย...พญ.รัตนา เพ็ญศรีชล กุมารแพทย์โรคภูมิแพ้และภูมิคุ้มกัน โรงพยาบาลเวชธานี
ในช่วงเทศกาลปีใหม่ที่ผ่านมา หลายครอบครัวถือโอกาสพากันไปเที่ยวตามสถานที่ต่างๆ และบางครอบครัวก็ได้ของฝากกลับมาเป็นอาการภูมิแพ้กำเริบ เพราะไปเจอสภาพแวดล้อมและสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงไป และน่ากังวลไปกว่านั้นถ้าอาการเหล่านี้เกิดขึ้นกับลูกน้อย เพราะส่งผลต่อคุณภาพชีวิตของเขาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
แต่ในปัจจุบันมีการรักษาภูมิแพ้ให้หายขาดได้ด้วยยาฉีดวัคซีนและยาอมใต้ลิ้น ยิ่งมารักษาเร็วเท่าไร โอกาสหายขาดก็ยิ่งได้ผลดีมากเท่านั้น
ทั้งนี้ โรคภูมิแพ้ในเด็ก มีสาเหตุมาจากการถ่ายทอดทางพันธุรกรรม เช่น พ่อแม่ พี่น้องเป็นภูมิแพ้ลูกก็มักจะมีอาการภูมิแพ้ด้วย นอกเหนือจากนั้นมีสาเหตุมาจากสิ่งแวดล้อม เช่น เจอมลภาวะในอากาศ ที่กระตุ้นให้ร่างกายมีการเปลี่ยนแปลงเป็นภูมิแพ้ โดยปกติแล้วภูมิแพ้ที่พบได้บ่อยในวัยทารกถึงเด็กเล็กคือ ภูมิแพ้อาหารและภูมิแพ้ผิวหนัง ส่วนในเด็กอายุ 3 ปีขึ้นไปพบว่าส่วนใหญ่เป็นภูมิแพ้ทางเดินหายใจ เช่น หอบหืด ภูมิแพ้จมูก หรือภูมิแพ้ขึ้นตา
ปัจจุบันโรคภูมิแพ้ในเด็กสามารถรักษาให้หายขาดได้ ด้วยวิธีการรักษาโดยใช้วัคซีนภูมิแพ้ซึ่งมี 2 ประเภท ได้แก่ยาฉีดและยาเม็ดอมใต้ลิ้น โดยหลักการทำงานของตัวยา จะไปทำให้ร่างกายสร้างภูมิต้านทานที่ดีมาต่อสู้กับภูมิแพ้ เมื่อให้ยาไปประมาณ 3 - 6 เดือน ภูมิต้านทานที่ดีก็จะเพิ่มขึ้น ส่งผลให้อาการภูมิแพ้ค่อยๆดีขึ้น และเมื่อรักษาต่อเนื่องนาน 3 - 5 ปี ก็จะทำให้หายขาดจากโรคภูมิแพ้ได้อย่างน้อย 10 ปี
สำหรับยาวัคซีนเม็ดอมใต้ลิ้น ซึ่งสะดวกในการบริหารยามาก เพียงอมใต้ลิ้นทุกวัน และมีผลข้างเคียงน้อย แต่ในปัจจุบัยังคงมีข้อจำกัดโดยให้ใช้สำหรับเด็กอายุ 12 ปี ขึ้นไปและมีการรักษาเฉพาะภูมิแพ้ไรฝุ่นเท่านั้น ส่วนยาฉีดวัคซีนสามารถใช้ได้ตั้งแต่เด็กอายุ 5 ปีขึ้นไป มีตัวยารักษาภูมิแพ้หลายชนิด เช่น แพ้เกษรหญ้า ไรฝุ่น แมลงสาบ และขนสัตว์เลี้ยง
โดยวิธีการรักษาโรคภูมิแพ้โดยวัคซีน เหมาะสำหรับกลุ่มผู้ป่วยที่มีอาการภูมิแพ้เรื้อรัง และกลุ่มที่ไม่ต้องการใช้ยารักษาภูมิแพ้เป็นเวลานาน ทั้งนี้ อาจมีผลข้างเคียงจากการรักษาในระยะแรก ตั้งแต่ระดับไม่รุนแรง คือมีอาการบวมคันเฉพาะที่ ไปจนถึงระดับแพ้รุนแรง คือมีอาการผื่นขึ้นทั้งตัว หายใจลำบาก แพทย์จะทำการรักษาตามอาการ และปรับขนาดยาใหม่เพื่อรักษาต่อ
ผู้ปกครองสามารถพาบุตรหลานมาปรึกษาแพทย์เพื่อทำ Skin Test หรือเจาะเลือด เพื่อใช้ในการวินิจฉัยโรคภูมิแพ้ และหาแนวทางการรักษา รวมถึงคำแนะนำในการดูแลตัวเองเพื่อไม่ให้เกิดอาการภูมิแพ้
การรักษาโรคภูมิแพ้ให้หายขาดอย่างมีประสิทธิภาพ คือการรักษาตั้งแต่ยังเด็ก เพราะภูมิคุ้มกันในเด็กยังสามารถปรับเปลี่ยนได้ จึงมีโอกาสที่จะหายขาดได้ดีกว่าผู้ใหญ่ และที่สำคัญ เป็นการลดโอกาสที่จะแพ้สิ่งอื่นเพิ่มเพิ่มด้วย จึงอยากแนะนำให้คุณพ่อคุณแม่หมั่นสังเกตอาการของลูกน้อย และพามาพบแพทย์เพื่อให้แพทย์ได้วินิจฉัยและวางแผนในการรักษา