สบส.เตรียมจัดอบรมพัฒนาศักยภาพ อสม. 8 หมื่นคนทั่วประเทศ เม.ย.นี้ พร้อมพัฒนาระบบบันทึกข้อมูลการลงพื้นที่ดูแลคนในชุมชน ใช้เป็นส่วนหนึ่งเกณฑ์ประเมินรับค่าตอบแทนเพิ่มขึ้นเป็น 2,500 บาท แจงข้อกังวลคนแห่สมัคร อสม.หวังนั่งรับเงิน ชี้มีระบบคัดกรอง ต้องผ่านการฝึกอบรม
นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวถึงความคืบหน้าการเพิ่มค่าตอบแทนอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) ว่า การเพิ่มค่าตอบแทน อสม. จะมีการอบรมพัฒนาศักยภาพ อสม.ก่อน ซึ่งขณะนี้ได้มีการอบรมครู ก. ทั่วประเทศแล้ว อยู่ระหว่างการเตรียมอบรม อสม.ในพื้นที่ต่อไป ซึ่ง อสม.ทั้งหมด 1,040,000 คน จะเลือกมาอบรมจำนวน 80,000 คน จากทุกหมู่บ้าน ราวๆ เดือนเม.ย. 2563 ระหว่างนี้ได้มีการประสานแพทย์ที่จังหวัดสุรินทร์ ให้มีการพัฒนาระบบบันทึกข้อมูลการลงพื้นที่ดูแลสุขภาพของประชาชน ซึ่งสามารถรายงานได้ผ่านทางสมาร์ทโฟน โดย อสม.สามารถบันทึกข้อมูลผู้ป่วยที่ดูแลรับผิดชอบแบบลงลึกได้เป็นรายบุคคล ทำให้ได้ข้อมูลในระดับประเทศ รู้ว่ามีใครตกหล่นยังไม่ได้รับการดูแลอย่างไรหรือไม่ เช่น ยังไม่ได้รับวัคซีน เป็นต้น ข้อมูลเหล่านี้จะเป็นส่วนหนึ่งที่จะนำมาใช้เป็นเกณฑ์ประเมินศักยภาพ อสม.เพื่อให้ได้รับค่าตอบแทนที่เพิ่มขึ้นด้วย ซึ่งจะคัดเลือกเริ่มต้นที่ 10,000 คนก่อน ในอัตรา 2,500 บาท จากเดิม 1,000 บาท
เมื่อถามว่า ขณะนี้มีหลายคนมองว่า อยากจะสมัครเป็นอสม.ทิ้งเอาไว้ เพื่อให้ได้รับค่าตอบแทน นพ.ธเรศ กล่าวว่า การเป็น อสม. ไม่ใช่ว่าใครก็สามารถเข้ามาเป็นได้ เมื่อก่อนตอนที่ยังเป็นแบบอาสาสมัคร ยังไม่มีค่าตอบแทน ใครอยากสมัครก็สามารถทำได้ มีเวลาว่าง ก็เข้ามาทำงาน แต่ตอนนี้พอมีค่าตอบแทนเข้ามา ทำให้การเข้ามาเป็น อสม. ต้องมีการประเมินและคัดเลือก โดยคนพื้นที่ต้องเป็นผู้เสนอรายชื่อคนที่ต้องการเป็น อสม.รายใหม่เข้ามา แล้วจะมีประธานชุมชนพิจารณาว่าจะให้การรับรองหรือไม่ เมื่อได้รับการรับรองแล้ว ก็ต้องไปฝึกอบรมอีก จึงจะขึ้นทะเบียนได้ ส่วนของผู้ที่เป็น อสม.มาตั้งแต่ยังไม่มีค่าตอบแทน วันนี้คนเหล่านี้มีอายุมากขึ้น ซึ่งมีประมาณ 10-20% อาจจะไม่สามารถลงพื้นที่ได้ แต่เรายังให้การดูแลและมีค่าตอบแทนให้ เพราะเขาก็เป็นผู้ที่ทำงานให้เรามาก่อน ในการวางระบบรากฐานต่างๆ และถึงแม้ว่าไม่ได้ลงพื้นที่ แต่ก็มาร่วมประชุมแสดงความเห็นที่เป็นประโยชน์