อ.นพ. มงคล สมพรรัตนพันธ์
รศ.ดร.นพ. พงศกร ตันติลีปิกร
ศูนย์วิจัยเพื่อความเป็นเลิศภูมิแพ้
คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ม.มหิดล
วัคซีนภูมิแพ้ มาจากสารก่อภูมิแพ้ที่ผู้ป่วยแพ้ โดยฉีดกระตุ้นทีละน้อย ให้ร่างกายสร้างภูมิต้านทานต่อสิ่งที่แพ้ขึ้น
โรคใดบ้างที่ฉีด
- โรคจมูกอักเสบภูมิแพ้
- โรคหืดจากภูมิแพ้ ที่คุมอาการดีแล้ว
-โรคผิวหนังอักเสบภูมิแพ้
แพทย์เฉพาะทางจะเป็นผู้ประเมินว่า ผู้ป่วยสมควรเข้ารับการฉีดวัคซีนภูมิแพ้หรือไม่
ฉีดอย่างไร
แพทย์เฉพาะทางจะประเมินผู้ป่วย บางรายอาจฉีดมากกว่า 1 ชนิด ขึ้นกับประวัติและผลทดสอบภูมิแพ้
ช่วงแรก แพทย์จะฉีด 1 ครั้ง/สัปดาห์ และค่อยๆ เพิ่มปริมาณวัคซีนทีละน้อย จนถึงระดับสูงสุดที่ผู้ป่วยรับได้
ช่วงถัดไป ฉีดวัคซีนห่างขึ้นจนสามารถฉีดได้ 1 ครั้ง/เดือน เพื่อกระตุ้นให้สร้างภูมิดีอย่างต่อเนื่อง
นานเท่าใด
ฉีดต่อเนื่อง 3-5 ปี เพื่อผลดีที่สุด
ผลดี
1. รักษาตรงจุด
2. หากตอบสนองต่อวัคซีนและฉีดอย่างสม่ำเสมอ จะช่วยให้อาการภูมิแพ้ดีขึ้น (3-6 เดือน)
3. ลดการใช้ยา
4. ป้องกัน
•การเกิดโรคหืดในรายที่เป็นโรคจมูกอักเสบภูมิแพ้
•การแพ้สารอื่น ๆ ในอนาคต
เสี่ยงหรือไม่
บางรายที่ไว อาจมีอาการแพ้ได้ แม้จะฉีดสารเจือจางที่แพ้เข้าไปทีละน้อย ดังนั้นทุกครั้งที่ฉีด แพทย์จะสังเกตอาการอย่างน้อย 30 นาที ก่อนกลับบ้าน พร้อมให้ผู้ป่วยงดออกกำลังกายหลังฉีดในวันนั้น
หยุดฉีดได้ไหม
เมื่อฉีดครบ 3-5 ปี แล้วหยุดฉีด มีข้อมูลว่าผู้ป่วยส่วนใหญ่ไม่มีอาการภูมิแพ้ไปได้อีกหลายปี
วัคซีนภูมิแพ้ นับเป็นการรักษาเดียวในปัจจุบัน ที่มีแนวโน้มจะทำให้ตัวโรคภูมิแพ้หายขาดหรือดีขึ้นจากเดิม อย่างไรก็ตาม ผู้ป่วยจมูกอักเสบภูมิแพ้บางรายมีภาวะเยื่อบุจมูกไวเกินร่วมด้วย อาจมีอาการคัดจมูกเมื่ออากาศเปลี่ยน แม้จะได้รับวัคซีนภูมิแพ้แล้วก็ตาม สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมผ่านทาง e-mail: sicore.allergy@gmail.com