สภาองค์การลูกจ้างฯ เสนอแก้ กม. เพิ่มเงินว่างงานให้ลูกจ้างตกงานทุกกรณี 75% ของค่าจ้างนาน 6 เดือน เหตุไม่เพียงพอช่วงหางานใหม่ ถูกไบ่ออกเพราะทำผิดก็ควรได้ เหตุมีการจ่ายสมทบ จ่อเข้าพบ รมว.แรงงานสอบถามความคืบหน้าสัปดาห์หน้า เชื่อเพิ่มอัตราจ่ายเงินในกองทุนมีเพียงพอ
นายมนัส โกศล ประธานสภาองค์การลูกจ้างพัฒนาแรงงานแห่งประเทศไทย กล่าวถึงการผลักดันกฎหมายเพื่อช่วยเหลือลูกจ้างตกงาน ว่า ปัจจุบันบริษัทหลายแห่งปิดกิจการ ลูกจ้างตกงาน การว่างงานเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ สิ่งสำคัญ คือ ต้องมีมาตรการหรือกฎหมายมารองรับช่วยเหลือ ซึ่งที่ผ่านมาลูกจ้างหรือผู้ประกันตน หากตกงานจะได้รับเงินว่างงานจากกองทุนทดแทนการว่างงาน แบ่งเงื่อนไขเป็น 3 กรณี คือ 1.ลาออกจากงานจะได้รับเงินทดแทนการว่างงาน 30% จากค่าจ้างเป็นเวลา 90 วัน 2.กรณีถูกเลิกจ้างโดยไม่มีความผิด จะได้รับเงินทดแทนว่างงาน 50% ของค่าจ้างเป็นเวลา 180 วัน และ 3.กรณีถูกไล่ออกมีความผิด จะไม่ได้รับอะไรเลย ปัญหาคือ การเลิกจ้างหลายครั้งไม่ชัดเจนว่า มีความผิดจริงหรือไม่มีความผิด หลายเคสก็ต้องไปฟ้องร้องกันยาวนาน แต่ผู้ที่ได้รับผลกระทบทันที คือ ลูกจ้าง เพราะเมื่อถูกเลิกจ้าง ตกงาน หลายคนหางานไม่ได้ แต่ค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันยังจำเป็นต้องมี ขณะที่เงินทดแทนการว่างงานไม่เพียงพอ บางรายไม่ได้อีกเพราะติดเงื่อนไข
นายมนัส กล่าวว่า สภาองค์การลูกจ้างฯ จึงเดินหน้าเพื่อผลักดันในการปรับแก้กฎหมายให้จ่ายเงินกรณีว่างงานแก่ลูกจ้างที่ตกงานทุกกรณีในอัตรา 75% ของค่าจ้าง เป็นเวลา 6 เดือน เนื่องจากเงินที่นำมาให้ลูกจ้างก็เป็นเงินที่ได้จากการสมทบในกองทุนประกันสังคมทั้งสิ้น ก่อนหน้านี้ได้ทำหนังสือถึง ม.ร.ว.จัตุมงคล โสณกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เพื่อขอปรับแก้อัตราการจ่ายเงินทดแทนการว่างงาน และวันนี้ (31 ต.ค.) ตนได้ทำเรื่องสอบถามไปยังกระทรวงแรงงานถึงความคืบหน้าว่า จะมีแนวทางช่วยเหลือลูกจ้าง ผู้ประกันตนอย่างไร คาดว่าจะขอเข้าพบเกี่ยวกับเรื่องนี้ภายในสัปดาห์หน้า
เมื่อถามว่า หากเพิ่มอัตราเงินทดแทนว่างงาน จะมีเงินเพียงพอหรือไม่ นายมนัส กล่าวว่า เพียงพอ เนื่องจากกองทุนว่างงานมีถึง 2 แสนล้านบาท และที่ผ่านมามีลูกจ้างที่ใช้สิทธินี้ประมาณ 30-50% เท่านั้น ทั้งนี้ กองทุนประกันสังคม นับเป็นกองทุนที่มีเงินมหาศาล รวมแล้วมีเงินถึง 1.9 ล้านล้านบาท แบ่งเป็น 3 กองทุน คือ 1.กองทุนเจ็บป่วย เสียชีวิต ทุพพลภาพ ลาคลอด กองทุนนี้มีประมาณ 8 หมื่นล้านบาท ผู้ประกันตนสมทบ 1.5% นายจ้างและรัฐบาลสมทบอีกฝ่ายละ 1.5% 2.กองทุนบำเหน็จบำนาญชราภาพ มีเงิน 1.8 ล้านล้านบาท ผู้ประกันตนสมทบ 3% นายจ้าง 3% แต่รัฐบาลไม่ได้สมทบ และ 3.กองทุนว่างงาน มี 2 แสนล้านบาท ผู้ประกันตน นายจ้างสมทบฝ่ายละ 0.50% ส่วนรัฐบาลสมทบ 0.25% เห็นชัดว่า ผู้ประกันตนได้จ่ายสมทบหมด จึงมีสิทธิที่จะขอเพิ่มส่วนนี้ได้ เพราะที่ผ่านมากลุ่มลูกจ้างที่ถูกเลิกจ้าง และบริษัทบอกว่ามีความผิดก็ไม่สามารถใช้ได้เลย ทั้งที่มีเงินตัวเองอยู่ด้วย