ครม.เห็นชอบร่างกฎกระทรวงคุ้มครองสุขภาพลูกจ้าง บังคับนายจ้างจัดตรวจสุขภาพลูกจ้างที่ทำงานเกี่ยวกับปัจจัยเสี่ยงครั้งแรกภายใน 30 วัน นับแต่รับลูกจ้างเข้าทำงาน และครั้งต่อไปปีละ 1 ครั้ง หยุดงาน 3 วันต่อเนื่องต้องจัดตรวจสุขภาพก่อนให้กลับมาทำงาน มีสมุดสุขภาพประจำตัวลูกจ้าง หากมีหลักฐานทำงานในหน้าที่เดิมไม่ได้ ให้เปลี่ยนงานตามสมควร เตรียมประกาศในราชกิจจานุเบกษา
นายสมบูรณ์ ตรัยศิลานันท์ รองอธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน (กสร.) เปิดเผยว่า การประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 29 ต.ค. ที่ผ่านมา ได้มีมติเห็นชอบผ่านร่างกฎกระทรวงกำหนดมาตรฐานในการบริหาร จัดการ และดำเนินการด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงานเกี่ยวกับการจัดให้มีการตรวจสุขภาพลูกจ้างที่ทำงานเกี่ยวกับปัจจัยเสี่ยง พ.ศ. .... ตามที่กระทรวงแรงงานเสนอ ซึ่งสาระสำคัญของร่างกฎกระทรวงดังกล่าวกำหนดให้นายจ้างต้องจัดให้มีการตรวจสุขภาพลูกจ้างที่ทำงานเกี่ยวกับปัจจัยเสี่ยงครั้งแรกภายใน 30 วัน นับแต่รับลูกจ้างเข้าทำงาน และครั้งต่อไปอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง และในกรณีที่ลูกจ้างหยุดงาน 3 วันทำงานติดต่อกันเนื่องจากประสบอันตรายหรือเจ็บป่วย ให้นายจ้างขอความเห็นจากแพทย์หรือจัดให้มีการตรวจสุขภาพก่อนให้ลูกจ้างกลับเข้าทำงาน โดยนายจ้างเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการตรวจสุขภาพให้แก่ลูกจ้าง
นายสมบูรณ์ กล่าวว่า นอกจากนี้ กฎกระทรวงยังได้กำหนดให้นายจ้างจะต้องจัดให้มีสมุดสุขภาพประจำตัวของลูกจ้าง และให้บันทึกผลการตรวจสุขภาพ พร้อมแจ้งผลการตรวจให้ลูกจ้างภายใน 7 วัน แต่หากพบว่าผลการตรวจสุขภาพผิดปกติให้แจ้งลูกจ้างภายใน 3 วัน และเมื่อสิ้นสุดการจ้างให้มอบสมุดสุขภาพประจำตัวให้แก่ลูกจ้าง ทั้งนี้ สำหรับลูกจ้างที่มีหลักฐานทางการแพทย์แสดงว่า ไม่อาจทำงานในหน้าที่เดิมได้ให้นายจ้างเปลี่ยนงานให้ตามสมควร โดยคำนึงถึงสุขภาพและความปลอดภัยของลูกจ้างด้วย ซึ่งกฎกระทรวงดังกล่าวอยู่ระหว่างการเตรียมประกาศในราชกิจจานุเบกษาเพื่อให้มีผลบังคับใช้ต่อไป