xs
xsm
sm
md
lg

ดัน “ผ้าทอตีนจก” ภูมิปัญญาชาวเหนือขึ้นชั้นอินเตอร์ “คิง เพาเวอร์” อวดโฉม ‘Thai Natural Dye Collection’ คอลเลคชันใหม่ “เลสเตอร์ ซิตี้”

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


วานนี้ (30 มี.ค.) ที่คิง เพาเวอร์ สเตเดียม ก่อนการแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ลีกระหว่าง เลสเตอร์ ซิตี้ และบอร์นมัธ “คิง เพาเวอร์ ไทย เพาเวอร์ พลังคนไทย” เปิดตัวสินค้า Ready-to-wear ประจำสโมสรเลสเตอร์ ซิตี้ แบบใหม่ล่าสุด ภายใต้ชื่อ ‘Thai Natural Dye Collection’ สะท้อนความงดงามอันทรงคุณค่าของการย้อมสีธรรมชาติ และการทอผ้าแบบพื้นถิ่นภาคเหนือที่เกิดจากสามภูมิปัญญาท้องถิ่นไทยแท้ ได้แก่ ชุมชนปกาเกอะญอ จังหวัดลำพูน, การทอจกตามแบบเฉพาะ อ. แม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่ และเส้นใยย้อมสีธรรมชาติจาก ต. ตะเคียนปม จังหวัดลำพูน พร้อมวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการ ณ เดอะ ซิตี้ แฟนสโตร์ แอท คิง เพาเวอร์ สเตเดียม เมืองเลสเตอร์ ประเทศอังกฤษ, คิง เพาเวอร์ สาขารางน้ำ, พัทยา, ศรีวารี, ภูเก็ต, คิง เพาเวอร์ มหานคร และภายในสนามบินดอนเมือง, สนามบินสุวรรณภูมิ, สนามบินภูเก็ต และสนามบินอู่ตะเภา

Thai Natural Dye Collection ได้รับการออกแบบ และรังสรรค์ภายใต้แนวคิด Northern Thai Glory เพื่อเชิดชูมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม และคุณค่าอัตลักษณ์ผ้าทอพื้นถิ่นไทยทางภาคเหนือที่เกิดจากฝีมือของชุมชน 3 แห่ง ได้แก่ ชุมชนปกาเกอะญอ จังหวัดลำพูน, การทอจกตามแบบเฉพาะ อ. แม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่ และเส้นใยย้อมสีธรรมชาติจาก ต. ตะเคียนปม จังหวัดลำพูน เกิดเป็นคอลเลกชันเสื้อผ้า กระเป๋า ของสโมสรเลสเตอร์ ซิตี้ สไตล์แฟชั่นที่ผสมความเป็นไทยแท้แบบที่ไม่เคยมีมาก่อน

นายอัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ เปิดเผยว่า “จากความสำเร็จของ INDIGO สองคอลเลคชันที่ผ่านมา คิง เพาเวอร์ ไทย เพาเวอร์ และทีมดีไซเนอร์แบรนด์ เลสเตอร์ ซิตี้ ประเทศไทย ได้ร่วมพัฒนาคอลเลคชันใหม่ Thai Natural Dye กับสามชุมชนทางภาคเหนือของไทยอย่างใกล้ชิด เพื่อสานต่อเจตนารมณ์ในการช่วยเหลือชุมชนให้สามารถสร้างอาชีพได้อย่างยั่งยืนจากความถนัดของตัวเอง และภูมิปัญญาที่สืบทอดกันมาอย่างยาวนานหลายยุคสมัย เพื่อให้ตอบโจทย์กับความต้องการของตลาดทั้งไทย ต่างประเทศ และเทรนด์แฟชั่นทันสมัย ใส่ได้ทุกโอกาส สำหรับความพิเศษของคอลเลคชันนี้ คือ การนำเส้นใยย้อมสีธรรมชาติมาทอจกแบบกลับหัวเป็นครั้งแรก! จนได้เป็นลายหน้าจิ้งจอก ซึ่งเป็นโลโก้ประจำสโมสรเลสเตอร์ ซิตี้ เรียกได้ว่า เป็นการนำเสนอความงดงาม และเสน่ห์ของผ้าไทยในรูปแบบสากลได้อย่างลงตัว”

“ที่ผ่านมา คิง เพาเวอร์ เน้นการให้องค์ความรู้กับผู้ผลิตในชุมชน เพื่อต่อยอดพัฒนาสินค้าพื้นถิ่นให้ตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมาย และเป็นช่องทางในการจัดจำหน่ายสินค้าไทยให้เป็นที่รู้จักในระดับโลก สะท้อนขนบธรรมเนียม วิถีชีวิตอันดีงามดั้งเดิม ความเป็นอัตลักษณ์พื้นถิ่นภาคเหนือ และศักยภาพฝีมือคนไทยให้เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลายในระดับสากล” นายอัยยวัฒน์กล่าวเสริม

คลิกอ่าน >>
คิง เพาเวอร์ พา “ผ้าครามไทย” ภูมิปัญญาชาวบ้านสกลนครโกอินเตอร์ เปิดตัวคอลเลกชันใหม่ INDIGO ของที่ระลึกสโมสรเลสเตอร์
คิง เพาเวอร์เปิดตัว คอลเลกชัน ‘INDIGO II’ ผ้าครามไทยลุคอินเตอร์ ในคอนเซปต์ Nature is More

ความประณีตของภูมิปัญญาไทย

จุดเริ่มต้นของคอลเลคชันใหม่นี้ ทางทีมนักออกแบบของกลุ่มบริษัทคิง เพาเวอร์ และดีไซเนอร์ แบรนด์ เลสเตอร์ ซิตี้ ประเทศไทย ได้ร่วมกับชุมชนตำบลตะเคียนปม จังหวัดลำพูน เพื่อสานต่อเสน่ห์ของการย้อมสีธรรมชาติแบบดั้งเดิม ภูมิปัญญาที่ชาวบ้านตะเคียนปมสั่งสม และสืบทอดกันมาจากรุ่นสู่รุ่น โดยมีดีเอ็นเอของสโมสรเลสเตอร์ ซิตี้ เป็นโจทย์สำคัญ จึงเป็นที่มาของสีหลักใหม่ 4 สี ที่ได้มาจากวัตถุดิบธรรมชาติ ผ่านกระบวนการ ‘ย้อมร้อน’ ที่ใช้ความร้อนในการดึงสีออกมาจากต้นพืช หรือ ‘ย้อมเย็น’ การจุ่มน้ำพร้อมพืชเพื่อดูดซับสีที่ออกมาตามธรรมชาติ ได้แก่ สีฟ้า-น้ำเงิน จากต้นฮ่อม, สีน้ำตาล-เทา จากยางในผลมะเกลือ, สีส้ม จากเมล็ดคำแสด และสีเหลือง จากใบเพกา โดยเส้นใยที่ย้อมได้มีคุณสมบัติเด่น คือ เป็นสีธรรมชาติ สวมใส่สบาย และระบายอากาศได้ดี

จากนั้น จะนำเส้นใยย้อมสีจากลำพูนมาทอแบบวิถีของจกแม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่ ซึงมีจุดกำเนิดมาจากฝีมือเชื้อสายพญาเขื่อนแก้ว เมืองเชียงแสนเมื่อ 200 กว่าปีมาแล้ว ความโดดเด่นอยู่ที่ลวดลายบนผืนผ้าที่เพิ่มเส้นด้ายเป็นช่วงๆ บนหน้ากว้างของผืนผ้าโดยใช้ไม้ขนเม่น หรือนิ้วมือยกเส้นด้ายแล้วพุ่งเส้นด้ายสีพิเศษเพื่อสร้างลวดลายที่เป็นเอกลักษณ์ และงดงามแตกต่างกันไป ปัจจุบัน ผ้าซิ่นตีนจกเป็นมรดกล้ำค่าทางวัฒนธรรม และเป็นทรัพย์สินทางปัญญาของคนแม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งได้ขึ้นทะเบียนเป็นสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ทั้งหมด 16 ลาย สำหรับคอลเลคชันนี้ ใช้ลายดอกจัน และลายโคมหัวหมอน ซึ่งเป็นลายที่ใช้ทอเฉพาะหัวหมอนที่แม่แจ่ม รวมถึงลายทอตัวหนังสือโลโก้แบรนด์ LCFC ที่เป็นเกิดจากการทอจกกลับหัว ซึ่งเป็นครั้งแรกของชุมชนที่ใช้กรรมวิธีการทอแบบใหม่ เพื่อให้ได้ลายใหม่ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของคิง เพาเวอร์






ความมหัศจรรย์ของคอลเลคชัน Thai Natural Dye อยู่ที่โลโก้ ‘หน้าจิ้งจอก’ ที่เกิดขึ้นจากการทอจกแบบกลับหัวซึ่งไม่เคยมีมาก่อน ทำให้สามารถมองเห็นลายจากผ้าทั้งสองด้านอย่างสวยงาม เพิ่มลาย คือ ลายทอจกดอกจัน ลายโคมและลายทอหน้าหมอน ซึ่งเป็นลายที่แตกต่างจากลายบนผ้าซิ่นทั่วไป และเหมาะจะสวมบนศีรษะ จะไม่เป็นลายบนผ้าซิ่นที่ใช้นุ่งบริเวณส่วนล่างใกล้กับปลายเท้า เกิดเป็นลูกเล่น และดีไซน์แปลกใหม่ โดยเน้นการตัดเย็บที่ทันสมัย และใช้ได้ทุกวัน

คอลเลคชัน Thai Natural Dye มีสินค้าให้เลือกหลากหลายแบบ โดยแบ่งออกเป็น
1.เสื้อผ้ายืดมัดย้อมคอกลมแขนสั้น 3 แบบ ราคา 1,250 บาท



2.กระเป๋า Tote มัดย้อม พิมพ์ลายหน้าจิ้งจอก ราคา 1,250 บาท

3.หมวกผ้าทอตีนจก 2 แบบ ราคา 1,350 บาท


4.หมวกมัดย้อมสี ราคา 1,100 บาท

วางจำหน่ายพร้อมกันตั้งแต่วันที่ 30 มีนาคมนี้ เป็นต้นไป ณ เดอะ ซิตี้ แฟนสโตร์ แอท คิง เพาเวอร์ สเตเดียม เมืองเลสเตอร์ ประเทศอังกฤษ, คิง เพาเวอร์ สาขารางน้ำ, พัทยา, ศรีวารี, ภูเก็ต และคิง เพาเวอร์ มหานคร ภายในสนามบินดอนเมือง, สนามบินสุวรรณภูมิ, สนามบินภูเก็ต และสนามบินอู่ตะเภา

สำหรับผู้ที่สนใจ สามารถเข้าเลือกชม และช้อปสินค้าในคอลเลคชัน Thai Natural Dye ได้ที่ https://www.kingpower.com/brand/leicester-city-football-club


กำลังโหลดความคิดเห็น