สธ.เผยคนไทยตายจากโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง NCDs ปีละ 3.2 แสนคน ทุกชั่วโมงมีคนตาย 37 คน ชี้ ป้องกันโรคต้องร่วมกันทุกฝ่าย ประชาชนต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรม เตรียมเดินหน้าคลินิกหมอครอบครัวดูแลสุขภาพเชิงรุก ตั้งเป้าลดอัตราตายจากโรค NCDs ให้เหลือ 10 ต่อแสนประชากร ในปี 78 ลดอัตราสูบบุหรี่ ดื่มเหล้า กินเค็มคุมภาวะอ้วนเบาหวาน
วันนี้ (8 ส.ค.) ที่อาคารอิมแพ็ค ฟอรัม เมืองทองธานี นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวภายหลังเปิดการประชุมมหกรรมสุขภาพด้านโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDs Forum 2018) ภายใต้แนวคิด Together,Let`s beat NCDs : ประชารัฐร่วมใจลดภัย NCDs ว่า กลุ่มโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDs) เป็นปัญหาสำคัญของโลก แต่ละปีมีคนเสียชีวิตไม่น้อยกว่า 36 ล้านคนทั่วโลก คิดเป็นร้อยละ 63 ของสาเหตุการตายทั้งหมด สำหรับประเทศไทยมีข้อมูลชัดแล้วว่า ขณะนี้โรคไม่ติดต่อเรื้อรังเป็นสาเหตุหลักของการเสียชีวิตร้อยละ 75 ของการเสียชีวิตทั้งหมด หรือประมาณ 320,000 คนต่อปี โดยในทุก 1 ชั่วโมงจะมีผู้เสียชีวิต 37 ราย ทั้งนี้ โรคไม่ติดต่อเรื้อรังที่พบมากที่สุด คือ โรคหลอดเลือดสมอง รองลงมา คือ โรคหัวใจขาดเลือด โรคทางเดินหายใจอุดกั้น เบาหวาน และความดันโลหิตสูง ตามลำดับ
นพ.ปิยะสกล กล่าวว่า โรคไม่ติดต่อเรื้อรังเป็นโรคที่ป้องกันได้เพื่อไม่ให้เสียชีวิตก่อนวัยอันควร ที่ผ่านมา ประเทศไทยดำเนินการในหลายเรื่องที่สามารถเป็นตัวอย่างให้กับประเทศอื่นๆ ได้ อาทิ การออกกฎหมายต่างๆ กฎหมายควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ การรณรงค์ลดหวาน มัน เค็ม และล่าสุด ออกกฎหมายห้ามนำเข้าผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมไขมันทรานส์เข้ามาในประเทศ ซึ่งได้รับยกย่องจากต่างประเทศมาก ว่า สามารถทำได้ดี ภาคประชาชน ภาคเอกชนให้ความร่วมมือ ต่อต้านน้อยมาก อย่างไรก็ตาม เรื่องการควบคุมโรคไม่ติดต่อเรื้อรังเป็นเรื่องปัจเจกบุคคล ที่ทุกคนต้องหันมาปรับเปลี่ยนพฤติกรรมตัวเอง ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญ เพราะต่อให้ประเทศมีโรงพยาบาล มีเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่ดี มีห้องไอ.ซี.ยู.ที่ดี หรือมีผู้เชี่ยวชาญจำนวนมาก แต่ไม่ใช่คำตอบ เพราะฉะนั้นประชารัฐต้องร่วมใจกันดูแลสุขภาพ ปรับเปลี่ยนตัวเองให้มีสุขภาพดี ที่สำคัญ บุคลากรทางการแพทย์เองควรทำเป็นตัวอย่างด้วย
นพ.เจษฎา โชคดำรงสุข ปลัด สธ. กล่าวว่า สธ.จะเดินหน้าสานต่อแนวทางประชารัฐขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ป้องกันและควบคุมโรคไม่ติดต่อระดับชาติ พร้อมพัฒนาระบบบริการปฐมภูมิในรูปแบบคลินิกหมอครอบครัว เพื่อส่งเสริมการดูแลสุขภาพของประชาชนเชิงรุกให้เห็นเป็นรูปธรรม โดยตั้งเป้าลดอัตรการเสียชีวิตก่อนวัยอันควรจากโรคไม่ติดต่อเรื้อรังให้เหลือแค่ 10 ต่อแสนประชากร ภายในปี 2578 ลดอัตราการสูบบุหรี่ลง 30% ลดการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในระดับอันตรายลง 10% ลดการกินเค็มลง 30% ควบคุมภาวะอ้วนและเบาหวาน 80% เป็นต้น