กทม.ปรับวันละ 8 หมื่นบาท ผู้รับจ้างสร้างเขื่อนคลองพระโขนง ล่าช้า หลังหมดอายุสัญญา เม.ย. 61 จี้สร้างให้เสร็จโดยเร็ว คาดภายใน ต.ค.นี้ เสร็จทั้งหมด ป้องกันกัดเซาะริมตลิ่ง
วันนี้ (5 ส.ค.) นายจักกพันธุ์ ผิวงาม รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) กล่าวภายหลังลงพื้นที่ติดตามโครงการก่อสร้างเขื่อนป้องกันการกัดเซาะคลองพระโขนง ว่า โครงการก่อสร้างเขื่อนคลองพระโขนง ช่วงจากสถานีสูบน้ำพระโขนง ถึงแม่น้ำเจ้าพระยา มีความยาวประมาณ 1,250 ม. ก่อสร้างแล้วเสร็จ 930 ม. อยู่ระหว่างการก่อสร้างอีก 165 ม. บริเวณหมู่บ้านมหาวงษ์ ช่วงจากสถานีสูบน้ำพระโขนงถึงถนนทางรถไฟสายเก่า และอยู่ในขั้นตอนจัดหาผู้รับจ้าง ก่อสร้างเขื่อนทดแทนเขื่อนเดิมที่ชำรุด ความยาว 155 ม. บริเวณคอนโดวอเตอร์ฟอร์ดพาร์ค อย่างไรก็ตาม โครงการดังกล่าวได้เริ่มสัญญาเมื่อปี 53 การก่อสร้างควรจะแล้วเสร็จในปี 56 แต่ติดปัญหาในการรังวัดแนวเขตที่ดิน ทำให้การก่อสร้างเกิดความล่าช้า ปัจจุบันปัญหาดังกล่าวได้หมดลงแล้ว
“ขณะนี้ได้เร่งรัดผู้รับจ้างให้เข้าพื้นที่ทำงานอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม กรุงเทพมหานครได้ต่อสัญญาออกไปอีก โดยหมดอายุสัญญาเมื่อเดือน เม ย.61 ขณะนี้ผ่านมา 4 เดือนแล้ว ผู้รับจ้างได้ถูกปรับประมาณวันละ 80,000 บาท ซึ่งผู้รับจ้างต้องเร่งดำเนินก่อสร้างให้แล้วเสร็จโดยเร็ว อย่างช้าควรจะแล้วเสร็จภายในเดือน ต.ค.นี้ ขณะนี้ผลงานที่ทำได้ 70% ทั้งนี้ ได้มอบหมายให้สำนักการระบายน้ำลงพื้นที่ติดตามโครงการก่อสร้างอย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งให้คำแนะนำแก่ผู้รับจ้างในการปรับแผนการทำงาน การแก้ไขปัญหาและอุปสรรคต่างๆ ที่ส่งผลกระทบต่อโครงการ ซึ่งผู้รับจ้างยืนยันว่าการก่อสร้างเขื่อนคลองพระโขนงจะแล้วเสร็จภายในเดือน ต.ค.61” นายจักกพันธุ์ กล่าว
นายจักกพันธุ์ กล่าวว่า ทั้งนี้ บริเวณคลองพระโขนงช่วงตั้งแต่สถานีสูบน้ำคลองพระโขนง จนถึงแม่น้ำเจ้าพระยาได้รองรับอัตราการระบายน้ำจากสถานีสูบน้ำพระโขนงเดิม และสถานีสูบน้ำอุโมงค์พระโขนงในปริมาณมาก ทำให้เกิดการกัดเซาะตลิ่งและท้องคลองลึกมาก จนเป็นเหตุให้เขื่อนเดิมที่ก่อสร้างมาเป็นระยะเวลานาน ไม่สามารถรองรับการป้องกันตลิ่งได้ จนเกิดการเคลื่อนตัวชำรุดเสียหายและทรุดตัวเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งมีแนวโน้มอาจพังทลายได้ นอกจากนี้ ระดับน้ำในคลองพระโขนงขึ้นสูงตามอิทธิพลน้ำทะเลหนุน ส่งผลให้น้ำไหลผ่านช่องว่างที่เขื่อนเคลื่อนตัวเข้าท่วมพื้นที่ ทำให้ประชาชนที่พักอาศัยอยู่ในบริเวณดังกล่าวได้รับความเดือดร้อนและบ้านเรือนได้รับความเสียหาย ที่ผ่านมา สำนักการระบายน้ำได้ดำเนินการแก้ไขปัญหาโดยวางเรียงกระสอบทรายเป็นแนวป้องกันชั่วคราว
“เมื่อโครงการก่อสร้างเขื่อน ค.ส.ล. และป้องกันการกัดเซาะคลองพระโขนง ช่วงจากสถานีสูบน้ำพระโขนงถึงถนนทางรถไฟสายเก่า และการก่อสร้างเขื่อน ค.ส.ล.ทดแทนเขื่อนเดิมที่ชำรุดแล้วเสร็จ จะสามารถป้องกันและแก้ไขปัญหาน้ำท่วมขัง บริเวณถนนพระราม 4 ถนนสุขุมวิท และถนนในพื้นที่ใกล้เคียง เพิ่มประสิทธิภาพในการระบายน้ำลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยาได้ดียิ่งขึ้น” นายจักกพันธุ์ กล่าว
