กทม.เร่งสร้างเขื่อนคลองลาดพร้าว ขยายความกว้างคลองเป็น 35 เมตร ลึกต่ำกว่า 3 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง เผย ตอกเสาเข็มแล้ว 2.3 หมื่นต้น คาดพื้นที่ส่วนเขตสายไหมจะแล้วเสร็จใน 3 เดือน ช่วยแก้ปัญหาน้ำท่วม
วันนี้ (29 ก.ค.) นายจักกพันธุ์ ผิวงาม รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) กล่าวภายหลังลงพื้นที่ติดตามโครงการก่อสร้างเขื่อนคอนกรีตเสริมเหล็ก (ค.ส.ล.) คลองลาดพร้าว ว่า โครงการดังกล่าวมีความยาว 45.3 กม. ครอบคลุม 8 เขต คือ เขตวังทองหลาง ห้วยขวาง ลาดพร้าว จตุจักร บางเขน หลักสี่ ดอนเมือง และ สายไหม ส่งมอบ 22.3 กม. ยังไม่ได้ส่งมอบ 22.9 กม. ปัจจุบันสามารถตอกเสาเข็มได้ทั้งหมด 23,276 ต้น จากทั้งหมด 60,000 ต้น คิดเป็น 38.79% ความยาวเขื่อนที่ตอกเสาเข็มได้ 17,605 ม. ผลงานทั้งโครงการคืบหน้า 32.80% ส่วนแผนงานโดยรวมทั้งโครงการ 78%
นายจักกพันธุ์ กล่าวว่า มีบ้านเรือนประชาชนที่อยู่ในแนวพื้นที่โครงการก่อสร้างเขื่อนทั้งหมด 3,752 หลัง โดยยินยอมเข้าร่วมโครงการ 3,282 หลัง ไม่ยินยอม 470 หลัง ขณะนี้สามารถดำเนินการรื้อย้ายบ้านได้แล้ว 1,317 หลัง ส่วนที่ยังไม่ได้รื้อย้ายอีก 1,965 หลัง ได้มอบหมายให้สำนักงานเขตในพื้นที่สร้างความเข้าใจ ซึ่งที่ผ่านมาประชาชนส่วนใหญ่ยินยอมเข้าร่วมโครงการและให้ความร่วมมือในการรื้อย้ายออกไป นอกจากนี้ ได้มอบหมายให้สำนักการระบายน้ำติดตามโครงการก่อสร้างอย่างต่อเนื่อง และกำชับผู้รับจ้างให้เร่งตอกเสาเข็ม ติดตั้งแผงกันดิน ค.ส.ล. และก่อสร้างทางเดินเท้าในพื้นที่ก่อสร้างที่ได้ส่งมอบและบริเวณที่รื้อย้ายบ้านรุกล้ำออกไปแล้ว รวมทั้งบริเวณพื้นที่ที่ไม่มีปัญหาและอุปสรรคในการทำงาน ตลอดจนให้คำแนะนำแก่ผู้รับจ้างในการปรับแผนการทำงาน การเพิ่มปั้นจั่นเพิ่มจำนวนคนงาน และการขุดลอกคลองในบริเวณที่ก่อสร้างเขื่อนเสร็จแล้วทั้ง 2 ฝั่ง เพื่อให้โครงการก่อสร้างเดินหน้าอย่างต่อเนื่องแล้วเสร็จตามเป้าหมายที่วางไว้
“เมื่อโครงการแล้วเสร็จ จะเพิ่มพื้นที่ในรองรับน้ำได้มากขึ้น จากเดิมคลองลาดพร้าวมีความกว้างประมาณ 15-20 ม. จะมีความกว้างมากขึ้นถึง 35 ม. ระดับความลึก -1 ม.รทก. ก็จะขุดลอกคลองให้ได้ระดับความลึกประมาณ -3 ม.รทก. สามารถป้องกันและแก้ไขปัญหาน้ำท่วมในพื้นที่ กทม. เพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยา แก้ปัญหาน้ำเน่าเสียในคลองลาดพร้าว ยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนในชุมชน ส่วนการลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้า พบว่า พื้นที่โครงก่อสร้างบริเวณเขตสายไหม ซึ่งมีความยาวประมาณ 7 กม. ประชาชนในแนวพื้นที่โครงการได้ร่วมมือรื้อย้ายออกไปจนหมดแล้ว คาดว่า จะใช้เวลา 3 เดือน จะก่อสร้างเขื่อนบริเวณดังกล่าวเสร็จ ซึ่งจะเป็นพื้นที่นำร่องต้นแบบในการพัฒนาคลองลาดพร้าวต่อไป” รองผู้ว่าฯ กทม. กล่าว
