สปสช.จับมือ 8 ร.ร.แพทย์ ดูแลผู้ป่วยโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาว มะเร็งต่อมน้ำเหลือง เผย 10 ปี สิทธิประโยชน์ปลูกถ่ายเซลล์ต้นกำเนิดเม็ดโลหิต รักษาผู้ป่วยแล้วเกือบ 400 ราย ช่วยผู้ป่วยเข้าถึงการรักษา ลดภาระค่าใช้จ่ายค่ารักษาครอบครัว
นพ.จักรกริช โง้วศิริ ผู้ช่วยเลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กล่าวว่า คณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บอร์ด สปสช.) บรรจุสิทธิประโยชน์การรักษาผู้ป่วยด้วยวิธีการปลูกถ่ายเซลล์ต้นกำเนิดเม็ดโลหิต ตามแนวทางราชวิทยาลัยแพทย์สาขาที่เกี่ยวข้อง ตั้งแต่ปีงบประมาณ 2551 มีผู้ป่วยเข้ารับบริการปลูกถ่ายเซลล์ต้นกำเนิดเม็ดโลหิตเพิ่มขึ้น ปัจจุบันมีผู้ป่วยเข้ารับการรักษาแล้ว 387 ราย เป็นเด็ก 73 ราย และผู้ใหญ่ 314 ราย สำหรับปีงบประมาณ 2561 สปสช.ตั้งเป้าให้บริการ จำนวน 62 ราย และหน่วยบริการได้ให้การรักษาแก่ผู้ป่วยแล้วรวมจำนวน 29 ราย เป็นผู้ใหญ่ 23 ราย และเด็ก 6 ราย
นพ.จักรกริช กล่าวว่า ขณะนี้การให้บริการปลูกถ่ายเซลล์ต้นกำเนิดเม็ดโลหิต ภายใต้ระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บัตรทอง) มีหน่วยบริการที่ขึ้นทะเบียนให้บริการจำนวน 8 แห่ง ได้แก่ รพ.ศิริราช รพ.รามาธิบดี รพ.จุฬาลงกรณ์ รพ.พระมงกุฎเกล้า รพ.สงขลานครินทร์ รพ.มหาราชนครเชียงใหม่ รพ.มหาวิทยาลัยนเรศวร และ รพ.ศรีนครินทร์ โดยการสนับสนุนงบประมาณเป็นไปตามหลักเกณฑ์ เงื่อนไขและแนวทางที่กำหนด รายละ 800,000 บาท โดยค่าชดเชยการรักษาพยาบาลดังกล่าวประกอบไปด้วย ค่า HLA Matching ค่าทำการปลูกถ่ายไขกระดูก ค่ายากดภูมิคุ้มกัน เคมีบำบัด รังสีรักษา ค่ายารักษาโรคติดเชื้อหรืออาการแทรกซ้อนในระหว่างการดูแลผู้ป่วย รวมถึงค่าติดตามดูแลผู้ป่วยเป็นระยะเวลา 1 ปี ตั้งแต่มีการจำหน่ายผู้ป่วยออกจากโรงพยาบาล
“โรคมะเร็งเม็ดเลือดขาวและมะเร็งต่อมน้ำเหลือง เป็นโรคค่าใช้จ่ายสูง ในอดีตมีผู้ป่วยจำนวนไม่น้อยต้องเสียชีวิตลงด้วยข้อจำกัดการเข้าถึงเทคโนโลยีการรักษา ภายหลังจากการแพทย์ที่พัฒนาก้าวหน้า ทำให้ผู้ป่วยโรคนี้หายขาดได้โดยการปลูกถ่ายเซลล์ต้นกำเนิดเม็ดโลหิต แต่ยังคงมีอุปสรรคค่าใช้จ่ายการรักษาที่แพงมาก และด้วยผลการรักษาผู้ป่วยที่คุ้มค่า ดังนั้น บอร์ด สปสช.จึงได้บรรจุการปลูกถ่ายเซลล์ต้นกำเนิดเม็ดโลหิตเป็นสิทธิประโยชน์ภายใต้หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ส่งผลให้ผู้ป่วยร่วม 400 รายได้รับการรักษาและดูแลอย่างต่อเนื่อง ทั้งยังช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายครัวเรือนและผู้ป่วยมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น” ผู้ช่วยเลขาธิการ สปสช. กล่าว