xs
xsm
sm
md
lg

สธ.จ่อตั้ง “ร้านสมุนไพรไทย” ใน รพ.ศูนย์-รพ.ทั่วไป เปิดบริการแล้ว 13 แห่ง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


5 หน่วยงานลงนาม จัดตั้ง “ร้านสมุนไพรไทย” ใน รพ.ศูนย์ รพ.ทั่วไป สังกัด สธ. เผยเปิดบริการแล้ว 13 แห่ง หวังช่วยส่งเสริมการใช้สมุนไพร ส่งเสริมเกษตรกร ผู้ประกอบการ ตั้งเป้า 20 ปี ไทยเป็นฮับด้านสมุนไพรโลก

วันนี้ (2 ส.ค.) นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวภายหลังเป็นประธานพิธีลงนามความร่วมมือการจัดตั้งร้านสมุนไพรไทย (Samunprai Thai Shop) ในโรงพยาบาลศูนย์/โรงพยาบาลทั่วไป สังกัดสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข ระหว่างกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก มูลนิธิโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข องค์การเภสัชกรรม และบริษัท ผลิตภัณฑ์สมุนไพรไทย จำกัด (บริษัทร่วมทุนองค์การเภสัชกรรม) ว่าการลงนามความร่วมมือการจัดตั้งร้านสมุนไพรไทยครั้งนี้เป็นการดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาลในการพัฒนาสมุนไพรไทยเพื่อความมั่นคงทางสุขภาพและความยั่งยืนของเศรษฐกิจไทย โดยการกระจายผลิตภัณฑ์สมุนไพรไทยที่มีคุณภาพ ปลอดภัย และมีประสิทธิผลในรูปแบบของยา ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร เวชสำอาง และเครื่องใช้ส่วนบุคคลจากสมุนไพร สู่ผู้บริโภคเพื่อสร้างเสริมสุขภาพ และรักษาโรค รวมถึงสร้างโอกาสทางการตลาดของกลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกสมุนไพร ผู้ประกอบการด้านสมุนไพรของประเทศ ตอบโจทย์ความเหลื่อมล้ำและการเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม จึงทำให้ผลิตภัณฑ์จากสมุนไพรมีบทบาทในชีวิตประจำวัน และเป็นสินค้าส่งออกสำคัญของประเทศได้ในอนาคต

สำหรับความร่วมมือของ 5 หน่วยงาน จะร่วมกันสนับสนุนอำนวยความสะดวก และส่งเสริมความร่วมมือในการพัฒนาร้านสมุนไพรไทย ได้แก่ พัฒนารูปแบบและจัดตั้งร้านสมุนไพรไทย (Samunprai Thai Shop) ร่วมกันบริหารจัดการร้าน จัดทำกิจกรรมต่างๆ เพื่อส่งเสริมการใช้ผลิตภัณฑ์สมุนไพรไทยในการสร้างเสริมสุขภาพและการรักษาโรค เผยแพร่องค์ความรู้ที่เกี่ยวกับสมุนไพรไทย รวมทั้งส่งเสริมเกษตรกรผู้ปลูกสมุนไพร ผู้ประกอบการด้านสมุนไพรในระดับชุมชนและระดับจังหวัดให้มีศักยภาพในการผลิตสมุนไพรที่มีคุณภาพสู่ท้องตลาด ขณะนี้เปิดร้านสมุนไพรไทยแล้ว ที่โรงพยาบาลศูนย์/โรงพยาบาลทั่วไป 13 แห่ง ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นในการนำสมุนไพรที่มีคุณภาพไปสู่ประชาชนที่มารับบริการในโรงพยาบาลของรัฐ

ทั้งนี้ ประเทศไทยได้กำหนดแนวทางพัฒนาสมุนไพรไทยระยะ 20 ปี ภายใต้แนวคิด Thailand 4.0 โดยการ วางพื้นฐานภายในเชิงระบบ มีการเชื่อมโยงข้อมูลสมุนไพร สร้างความเข้มแข็งจากพื้นที่ (Herbal city) พัฒนาและผลักดันนวัตกรรมต่างๆ รวมทั้งการตลาด การสร้างเรื่องราวทางวัฒนธรรม เพื่อบรรลุเป้าหมายในอีก 20 ปีข้างหน้า ประเทศไทยจะเป็นศูนย์กลางสมุนไพรโลก (World Herb Hub)


กำลังโหลดความคิดเห็น