ผู้ค้าถนนข้าวสาร บุกศาลา กทม.ยื่นหนังสือ “อัศวิน” จี้ยกเลิกคำสั่งจัดระเบียบ จัดล็อกให้ไปขายบนถนน หวั่นรับผลกระทบช่วงฝนตก เกิดอันตราย พื้นที่ไม่เพียงพอรองรับผู้ค้าจากถนนรามบุตรี ด้านผู้ว่าฯ กทม. ลั่นปัญหาต้องจบ อยู่ได้ทั้งคนกรุงและผู้ค้า
วันนี้ (31 ก.ค.) กลุ่มผู้ค้าย่านถนนข้าวสาร นำโดย น.ส.ญาดา พรเพชรรัมภา ประธานชมรมผู้ค้าแผงลอยเสรีถนนข้าวสาร และนายเรวัตร ชอบธรรม ประธานเครือข่ายแผงลอยไทยเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน รวมตัวกันบริเวณสถานีตำรวจนครบาลชนะสงคราม ก่อนเดินทางไปยังศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร (กทม.) เขตพระนคร เพื่อยื่นหนังสือต่อ พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าฯ กทม. เพื่อขอให้ชะลอคำสั่งจัดระเบียบผู้ค้าบริเวณถนนข้าวสารซึ่งจะเริ่มวันที่ 1 ส.ค.นี้ โดย พล.ต.อ.อัศวิน ได้ลงมาพูดคุยกับกลุ่มผู้ค้า
น.ส.ญาดา กล่าวว่า การประกาศจัดระเบียบวันที่ 1 ส.ค. ของ กทม.เป็นการแจ้งให้ผู้ค้ารับทราบ โดยไม่เปิดให้ผู้ค้ามีส่วนร่วม สำหรับการจัดระเบียบ กทม.จัดแบ่งล็อกให้ผู้ค้าลงมาขายของบนผิวจราจรและให้เว้นทางเท้าไว้ โดยไม่ได้ประสานหน่วยงานของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ที่ออก พ.ร.บ.การจราจรในการขอใช้พื้นที่ ผู้ค้าจึงเชิญให้เจ้าหน้าที่ตำรวจและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาร่วมชี้แจงการจัดจราจร เมื่อวันที่ 30 ก.ค.ที่ผ่านมา แต่ไม่มีหน่วยงานใดเข้ามาชี้แจง ทั้งนี้ การให้ผู้ค้าลงมาขายบนถนน กังวลว่า เมื่อฝนตกหนักจะทำอย่างไร เพราะถนนข้าวสารยังไม่ได้รับการแก้ไขเรื่องน้ำท่วม และผู้ค้าต้องต่อไฟจากอาคารทำการค้า อาจทำให้นักท่องเที่ยวไม่ได้รับความปลอดภัย เช่น ไฟฟ้ารั่ว เป็นต้น หากนักท่องเที่ยวบาดเจ็บหรือเสียชีวิตจะทำอย่างไร ซึ่ง กทม.แจ้งว่าจะเรียกรถพยาบาลจัดส่งผู้ป่วยให้ ถือเป็นคำตอบที่ไร้ธรรมาภิบาล ต่อมาทางผู้ค้าพยายามประสานให้ กทม.ร่วมรับฟังปัญหาผู้ค้า ผู้บริหารกลับเพิกเฉย กระทั่งออกประกาศสำนักเขตพระนคร โดยไม่ลงชื่อท้ายประกาศหนังสือเพราะเกรงจะกระทบความสัมพันธ์อันดีระหว่างเขตพระนครและกลุ่มผู้ค้า
น.ส.ญาดา กล่าวว่า ขณะเดียวกัน กทม.จะยกเลิกแผงค้าถนนรามบุตรี และให้ผู้ค้าย้ายเข้ามาขายในล็อกที่จัดผังให้บนถนนข้าวสาร ซึ่งไม่เพียงพอต่อจำนวนผู้ค้า เกิดความขัดแย้งในการจับจองพื้นที่ อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ผู้ค้าร้องขอต่อ กทม.วันนี้ เป็นสิ่งที่เป็นไปได้ ผู้ค้าไม่ต้องการให้การจัดระเบียบทำลายภาพลักษณ์ที่ผู้ค้าร่วมกันสร้างขึ้นเอง จนกลายเป็นถนนที่มีชื่อเสียง ที่ผ่านมา ภาครัฐไม่เคยได้รับจัดสรรงบประมาณในการพัฒนาพื้นที่ กลุ่มผู้ค้าต่างร่วมกันพัฒนาทั้งสิ้น อย่างการจ้างรถทำความสะอาด เป็นต้น ทั้งนี้ ขอให้ชะลอการพิจารณาคำสั่งหรือยกเลิกคำสั่งจัดระเบียบ หาก กทม.ยังยืนยันเดินหน้าจัดระเบียบ จะรวบรวมเอกสารและข้อมูลยื่นหนังสือร้องเรียน เพื่อขอคุ้มครองและระงับคำสั่งต่อผู้ตรวจการแผ่นดินและทำเนียบรัฐบาล รวมถึงยื่นถวายฎีกาต่อสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
พล.ต.อ.อัศวิน กล่าวว่า คนไทยด้วยกัน ไม่ว่าจะมีปัญหาอะไรก็สามารถพูดคุยกันได้ ตนเห็นใจผู้ค้า แต่ผู้ค้าจะต้องเห็นใจประชาชนชาวกรุงเทพมหานคร 10 ล้านคน ที่ใช้ทางเท้าสัญจรด้วย พวกเขาได้รับความเดือดร้อนเช่นกัน ดังนั้น แนวทางการจัดระเบียบต้องพบกันครึ่งทาง โดยผู้ค้าจะต้องอยู่ได้และผู้ใช้ทางเท้าต้องไม่เดือดร้อนเช่นกัน อย่างไรก็ตาม วันนี้จะมอบหมายให้ นายสกลธี ภัททิยกุล รองผู้ว่าฯ กทม. ในฐานะรับผิดชอบเรื่องดังกล่าว ร่วมพูดคุยกับชมรมผู้ค้าแผงลอยเสรีถนนข้าวสารและเครือข่ายแผงลอยไทยเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน เพื่อหาข้อยุติดังกล่าว โดยไม่อยากให้เรื่องยืดเยื้อยาวนาน 7 ชั่วโคตร